ล่าสุดหลังจาก สายการบิน บางกอก แอร์เวย์ส ได้เปิด “โครงการร่วมใจจากองค์กร ปี2563” โดยเปิดให้พนักงานที่ประสงค์ลาออกมายื่นความจำนงค์ สมัครใจลาออก ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา และ เปิดให้พนักงานที่สนใจมายื่นสมัครใจได้จนถึงวันที่ 20 กรกฏาคมนี้ ทั้งนี้จาก เงื่อนไขการจ่ายเงินชดเชย ตามกฏหมายแรงงานตามอายุงานตั้งแต่ 1-13.33 เดือน บวกค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือน และให้เงินตอบแทนพิเศษเพิ่มให้อีกตามอายุงานตั้งแต่ 1 -5.67 เดือน เบ็ดเสร็จแล้วพนักงานจะได้รับเงินสูงสุด 20 เดือน
โดยพนักงานอายุงานไม่ถึง 1 ปี รวมแล้วได้ 3 เดือน พนักงานอายุงาน 1 ปี ไม่ถึง 3 ปี ได้ 5 เดือน พนักงานอายุงาน 3 ปี ไม่เกิน 6 ปี ได้ 9 เดือน พนักงานอายุงาน 6 ปี ไม่เกิน 10 ปี ได้ 12 ปี พนักงานอายุงาน 10 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี ได้ 15 เดือน และพนักงานอายุงานเกิน 20 ปีได้สูงสุด 20 เดือน
การจ่ายเออร์รี่ รีไทร์ ภายใต้เงื่อนไขนี้ จึงจูงใจพนักงานเป็นอย่างมาก ทำให้พนักงานของสายการบิน โดยเฉพาะคนที่มีอายุงาน10-20 ปีขึ้นไป และใกล้เกษียณอายุต่างแสดงความสนใจเป็นอย่างมาก แต่บริษัท จะใช้ดุลพินิจว่าจะให้ใครออกได้บ้าง โดยจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้
ทั้งที่ผ่านมา “สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส” ซึ่งจัดว่าเป็นสายการบินที่มีความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจมากที่สุด และไม่มีปัญหาการขาดทุนเหมือนสายการบินอื่นๆ ในปีนี้ก็จะต้องเผชิญกับการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 50 ปี ล่าสุดมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา สายการบินได้ออกประกาศถึงมีความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างองค์กรให้มีจำนวนบุคคลากรในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงจำนวนเที่ยวบิน และเส้นทางบินที่ลดลง จากผลกระทบของ โควิด-19
นอกจาก “โครงการร่วมใจจากองค์กร ปี 2563” แล้ว บางกอกแอร์เวย์ส ยังมี “โครงการลาโดยไม่รับค่าจ้าง (ระยะยาว)ด้วยความสมัครใจ" โดยไม่รับค่าจ้างจะให้ลาได้ถึงเดือนธันวาคมปีหน้า แต่ถ้าหากสถานการณ์ดีขึ้นจะทยอยเรียกกลับมาทำงานก่อน
รวมถึงมีการแผนปรับลดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของเครื่องบินและการปฏิบัติการบิน รวมถึงขอความร่วมมือจากพนักงานในการปรับลดรายได้บางส่วน เพื่อให้สายการบินสามารถอยู่รอดไปได้ โดยในส่วนของการปรับลดเครื่องบินปีนี้ สายการบินได้คืนเครื่องบินที่หมดสัญญาไปแล้ว 1 ลำ และจะมีการคืนเครื่องบินอีกอย่างแน่นอน ทั้งเครื่องที่ครบตามสัญญาแล้วและเครื่องที่คืนก่อนเวลา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาค่าใช้จ่ายและค่าปรับในการคืนเครื่องบินก่อนครบสัญญาว่าคุ้มหรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
8 แอร์ไลน์ ดาวน์ไซซ์องค์กร นกสกู๊ตปิดกิจการ
“บางกอกแอร์เวย์ส” เขย่าเส้นทางบินในประเทศ
"บางกอกแอร์เวย์ส" เปิดเพิ่ม 2 เส้นทางบิน 1 ก.ค.นี้
เนื่องจากลูกค้าหลักส่วนใหญ่ของสายการบินจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีกทั้งในขณะนี้แม้จะเริ่มทยอยกลับมาเปิดทำการบินเส้นทางบินในประเทศ แต่ก็ทำการบินได้เพียงบางเส้นทางเท่านั้น โดยทำการบินตรงจากกรุงเทพ ไปยังสมุย,เชียงใหม่,ลำปาง,สุโขทัย ,ภูเก็ตและสมุย-ภูเก็ต ซึ่งทำการบินได้ไม่ถึง 20 เที่ยวบินต่อวัน จากเดิมที่ให้บริการเป็นหลักร้อยเที่ยวบินต่อวัน
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบกับทุกสายการบิน ไม่ใช่แค่ บางกอกแอร์เวย์ส เพราะฉะนั้น การฟื้นตัวของธุรกิจการบินจึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่สิ่งที่ต้องช่วยกันคือ ต้องสร้างความเชื่อมั่นร่วมกันที่จะให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ หรือเริ่มกลับมาเดินทางตามปกติตามมาตรการที่มี ซึ่งคาดว่าจะมีการปลดล็อคมากขึ้นเรื่อยๆ