โรงแรมและรีสอร์ทในเครือ เซ็นทารา เครือโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าขยายสาขายกระดับความเป็นเครือโรงแรมระดับโลก ลงนามสัญญา บริหาร เพิ่มอีก 3 โรงแรมใหม่ใน เมียนมาร์
เซ็นทารา ลงนามข้อตกลงร่วมกับบริษัท เอสแอล อินเตอร์เนชั่นแนล คอนสตรัคชั่น จำกัด เพื่อเข้าบริหารโรงแรม 3 แห่ง ในเมียนมาร์ ประกอบด้วย โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ติริ พะอัน โรงแรมพะอัน ฮิลล์ท็อป รีสอร์ทและสปา เซ็นทารา บูทีค คอลเลคชั่น และโรงแรมเซ็นทารา มัณฑะเลย์
ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เซ็นทาราได้ลงนามสัญญาบริหารโรงแรมในเมียนมาร์ไปแล้วทั้งสิ้น 9 แห่ง ซึ่งรวม 3 โรงแรมแห่งใหม่ล่าสุดนี้กับบริษัท เอสแอล อินเตอร์เนชั่นแนล คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2562 โดยเป็นบริษัทก่อสร้างอาคารออฟฟิศและที่พักอาศัย ด้วยทีมงานวิศวกรมืออาชีพและผู้บริหารที่มากประสบการณ์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการพัฒนาโรงแรมและโครงการท่องเที่ยวระดับสากลมาแล้วมากมายในเมียนมาร์
โรงแรมแห่งแรกที่เซ็นทาราลงนามร่วมกับบริษัท เอสแอลฯ และจะเปิดให้บริการในปี2564 คือ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ติริ พะอัน ขนาด 77 ห้องพัก ซึ่งรายล้อมไปด้วยมรดกทางธรรมชาติและทิวทัศน์เทือกเขาหินปูนรูปแบบตะการตา โดยโรงแรมแห่งนี้จะมี ห้องอาหาร 2 แห่ง สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ห้องออกกำลังกาย และห้องประชุมสัมมนาต่างๆ
เมืองพะอัน เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐกะเหรี่ยง ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของย่างกุ้ง พะอันเป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน และทุ่งนาสีเขียวชอุ่มและทะเลสาบอันเงียบสงบ
อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างถ้ำซาดาน ซึ่งมีเจดีย์ และพระพุทธรูปประดิษฐานภายใน โดยปัจจุบันนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวเมืองพะอันได้อย่างง่ายดาย ด้วยระยะทางโดยสารทางรถยนต์เพียง 3 ชั่วโมง ผ่านถนนลาดยางตัดใหม่ที่เชื่อมผ่านเมืองก่อกะเระไปยังเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นเมืองชายแดนด้านตะวันออกของประเทศพม่าติดกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของประเทศไทย
โรงแรมแห่งที่สอง คือ โรงแรมพะอัน ฮิลล์ท็อป รีสอร์ทและสปา เซ็นทารา บูทีค คอลเลค ชั่น ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ติริ พะอัน เพียง 20 นาที โดยจะเป็นโรงแรมขนาด 60 ห้องพัก มีตัวเลือกทั้งแบบห้องพักและบังกะโล พร้อมห้องอาหาร 2 แห่ง สปา คิดส์คลับ ห้องออกกำลังกายพร้อมสระว่ายน้ำ และความบันเทิงต่างๆ สำหรับลูกค้า
อีกทั้งยังมีจุดชมวิวแบบระเบียงที่ยื่นออกไปด้านนอกอาคาร ซึ่งปูด้วยกระจกใสให้แขกผู้เข้าพักได้ชมภูมิทัศน์อันสวยงามของเมืองแบบ 360 องศา
โรงแรมแห่งที่สาม คือ โรงแรมเซ็นทารา มัณฑะเลย์ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2567 พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงอย่างหลากหลายในบริเวณเดียวกัน อาทิ ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และคาสิโน โดยโรงแรมแห่งนี้จะเป็นโรงแรมขนาด 200 ห้องพัก พร้อมห้องอาหาร 3 แห่ง ห้องประชุมสัมมนา ห้องออกกำลังกายพร้อมสระว่ายน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนอย่างครบครัน
"เราขยายฐานโรงแรมไปยังจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลาย พร้อมกับนำเสนอการให้บริการต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยไมตรีจิตอย่างไทยที่ผสานกับค่านิยมแบบครอบครัวอย่างลงตัว"
การร่วมมือกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในแต่ละประเทศ ดังเช่นในครั้งนี้กับบริษัท เอสแอล อินเตอร์เนชั่นแนล คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เราไว้วางใจ และเราเชื่อมั่นว่า จะสามารถนำความสำเร็จมาสู่เซ็นทาราและการท่องเที่ยวในเมียนมาร์ได้อย่างแน่นอน
นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าว “เมียนมาร์ เป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังเติบโตด้านการท่องเที่ยวที่รวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เรามุ่งมั่นที่จะนำประสบการณ์การบริการที่โดดเด่นของไทยก้าวไปสู่ระดับสากลในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เซ็นทาราได้ลงนามสัญญาบริหารโรงแรมในต่างประเทศเพิ่มทั้งหมด 6 แห่ง ซึ่งได้แก่ 3 แห่งในเมียนมาร์ 1 แห่งในโอมาน และ 2 แห่งในเวียดนาม โดยการลงนามสัญญาบริหารครั้งล่าสุดนี้ จะทำให้เซ็นทารามีจำนวนห้องพักในเครือเพิ่มอีก 337 ห้อง รวมเป็นทั้งหมด 17,154 ห้องภายใต้เครือโรงแรมและรีสอร์ทของเซ็นทาราทั้งหมด 81 แห่ง ในประเทศไทยและต่างประเทศ
ตั้งแต่เซ็นทาราเปิดโรงแรมในต่างประเทศแห่งแรกที่มัลดีฟส์ในปี2552 เป็นต้นมา เซ็นทาราได้เดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเซ็นทารามีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือในต่างประเทศมากถึงเกือบร้อยละ 50 ของทั้งหมด ซึ่งเซ็นทารายังคงมุ่งมั่นขยายฐานธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การบริการแบบไมตรีจิตไทยที่โดดเด่นสู่ระดับโลกต่อไป
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ได้ที่ www.centarahotelsresorts.com