ระงับสิทธิ์โรงแรมหัวหิน ส่อทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน”

จากกรณีที่มีโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหัวหิน เข้าร่วมโครงการ”เราเที่ยวด้วยกัน” เสนอขายห้องพักเหลือ 300-400บาทต่อคืน ให้คนเข้ามาจองใช้สิทธิ์ ซึ่งในวันแรกของการเปิดจองรับสิทธิ์ตามเงื่อนไขใหม่ ที่เพิ่มห้องพักเข้ามาในระบบอีก 1ล้านคืน พบว่ามีการจองสูงกว่า 6 พันครั้ง ทั้งๆที่มีห้องพักแค่ 40 ห้อง แต่เปิดให้จองเข้าพักวันละ 200-300 คน ซึ่งเป็นไปไม่ได้

รวมถึงยังพบว่าลูกค้าเช็คอินแต่ไม่มีกระเป๋า แต่ไปเช็คอินน์เพื่อใช้สิทธิ อี-เวาเชอร์ คืนละ 900 บาทสำหรับวันอาทิตย์-พฤหัส และ600 บาทสำหรับวันศุกร์-เสาร์ ทำให้มีการตั้งข้อสงสัยถึงการกระทำที่เข้าข่ายทุจริตโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”

นางสาวโศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าในขณะนี้ททท.ได้ระงับสิทธิ์การจองของโรงแรมดังกล่าวแล้ว โดยจะไม่สามารถเข้าไปจองในระบบได้ รวมถึงเอาชื่อโรงแรมที่พบพิรุธการทำผิด ออกจากรายชื่อโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”

สำหรับผู้ที่กดจองสิทธิ์การเข้าพักกับโรงแรมดังกล่าว จะไม่สามารถจ่ายเงินได้ ซึ่งโครงการนี้จะต้องจ่ายเงินผ่านแอปเป๋าตัง รวมทั้งโรงแรมจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลด้วย  รวมทั้งการกระทำผิดดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาหลักฐานของตำรวจ ทั้งนี้หากพบว่ามีหลักฐานการทุจริตที่ชัดเจนแล้ว ททท.จะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

พันตำรวจเอกรัฐพงศ์ แก้วยอด ผู้กำกับการกองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เผยว่า เรื่องนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน เพราะมองได้หลายมุม บางทีประชาชนบางส่วนก็อาจจะจองโรงแรม เพราะต้องการใช้สิทธิ์โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อเดินทางท่องเที่ยว

การที่มีบางคนอาศัยช่องโหว่ของระบบมาหาประโยชน์ส่วนตัว ก็ต้องรวบรวมหลักฐานการทำผิดให้ชัดเจน โรงแรมมีห้องพักแค่ 45 ห้อง แต่มีคนมาใช้สิทธิ์หรือเช็คอินวันละ200-300 คน เป็นไปไม่ได้ จึงต้องดูข้อมูลย้อนหลัง รายงานการเข้าพักของลูกค้า นำข้อมูลมาวิเคราะห์ประกอบด้วย

นอกจากนี้ยังพบพิรุธของโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ที่ประกาศขายห้องพัก 500 บาท แถมคูปองส่วนลดค่าอาหาร จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยเปิดให้คนภูเก็ตใช้ทะเบียนบ้านจองได้  ทั้งระบุว่าในเดือนธ.ค.63-เม.ย.64 ห้องราคา 4,500 บาท ลด40%  เหลือ 2,700 บาท ราคาจอง (ตอนเช็คอินได้เงินสดมอบให้ 2,200 บาทเท่ากับลูกค้าจ่ายที่ราคา 500 บาทต่อคืน ซึ่งถือว่าเข้าข่ายทุจริตกรณีมีเงินทอน ซึ่งเรื่องนี้ทางททท.รับทราบข้อมูลแล้ว และตำรวจได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบแล้วเช่นกัน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เผยว่าในวันแรก ของการเปิดให้จองรับสิทธิ์ ภายใต้เงื่อนไขใหม่ของโครงการ“เราเที่ยวด้วยกัน” เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม2563 ททท.ได้มอนิเตอร์สถานการณ์ยอดการจองที่เกิดขึ้น ซึ่งการเปิดจองวันแรก พบว่ามียอดการจองเข้ามาสูงมามาก ขณะที่ในวันที่ 2 ของการเปิดรับสิทธิ์ กลับไม่ได้มียอดจองสูงมากเหมือนในวันแรก

ทั้งนี้ในการเปิดรับสิทธิ์ใหม่ 1 ล้านคืน ททท.ได้รับได้มอนิเตอร์สถานการณ์การจองที่เกิดขึ้น ก็พบว่ามีรายงานของยอดการจองที่ผิดปกติเข้ามาบ้าง ในบางเคส เช่น บางโรงแรมยอดจองมาก ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เป็นโรงแรมที่ได้รับความนิยมมากนัก ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าทุจริต ก็จะดำเนินคดี เหมือนรายที่มีการทุจริตไปแล้วก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามยอดการจองที่เพิ่มสูงมากในวันแรก จากการสอบถามผู้ประกอบการโรงแรม พบว่า น่าจะเป็นบุ๊กกิ้งที่อั้นมาตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ ที่รอจะจองที่พักเพื่อเดินทางท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ แต่สิทธิ์ห้องพักเต็ม ดังนั้นเมื่อมีการเพิ่มห้องพักเข้ามาในระบบการจอง “เราเที่ยวด้วยกัน” 1 ล้านคืน ก็ทำให้เกิดการรีบเข้ามาจอง เพราะเงื่อนไขในการลงทะเบียนจองรับสิทธิ์ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนการเดินทาง  ซึ่งการจองในวันแรกก็จะทำให้เดินทางท่องเที่ยวตรงกับช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้พอดี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เราเที่ยวด้วยกัน” เปิดจองรับสิทธิ์ใหม่ วันแรกยอดพุ่งทะลุ2แสนคืน วันที่สองเฉื่อย
รับปีใหม่ "เราเที่ยวด้วยกัน" เปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ 6 เงื่อนไขใหม่ได้แล้ว
หลักฐานถึงตำรวจสาวเอาผิดทุจริต“เราเที่ยวด้วยกัน”
เปิด 6 พฤติกรรมโกงเงิน "เราเที่ยวด้วยกัน"