สถานการณ์ของธุรกิจโรงแรมทั่วโลกรวมทั้งของประเทศไทยในปีที่ผ่านมา เรียกว่าหนักหน่วง ผลพวงมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก ทำให้หลายประเทศมีการล็อกดาวน์ การเดินทางท่องเที่ยวต่างๆหยุดชะงัก โรงแรมหลายแห่งปิดตัว บางแห่งก็ต้องปรับลดต้นทุนบริหารจัดการด้านต่างๆให้อยู่รอด
สำหรับประเทศไทย พอผ่านพ้นช่วงล็อกดาวน์ และการที่ภาครัฐมีมาตรการเยียวยาและกระตุ้นผ่านโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ก็ช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวรวมไปถึงโรงแรมเริ่มจะกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีเกิดการแพร่ระบาดระลอก 2 ก็ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวรวมไปถึงโรงแรมก็เริ่มจะได้รับผลกระทบกันอีกรอบ
ทั้งนี้ "วิจัยกรุงศรี" ได้ประเมินและวิเคราะห์ธุรกิจโรงแรมในปี 2564 เอาไว้ว่ามีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่อง แต่จะทยอยฟื้นตัวในปี 2565-2566 และคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 ปี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงจะฟื้นตัวกลับมาเท่ากับระดับช่วงก่อนโควิด-19(COVID-19) ที่มีประมาณ 38-40 ล้านคน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวเร็วกว่าจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด ผลจากมาตรการ SVT รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีข้อตกลงเชื่อมต่อการเดินทางโดยไม่ต้องกักตัว (Travel Bubble) และในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 การค้นพบวัคซีนและนำมาใช้ได้อย่างแพร่หลายจะหนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่โรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก อย่าง กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต คาดรายได้จะทยอยฟื้นตัวตามทิศทางการท่องเที่ยว โดยอัตราเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 50-55% ด้านผู้ประกอบการมีแนวโน้มชะลอการลงทุน ผลจากภาวะอุปทานส่วนเกินหลังวิกฤตโควิด -19 (COVID-19) นั่นเอง
ส่วนโรงแรมในจังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค รายได้ทยอยปรับดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ ที่ได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐ
ด้านโรงแรมในจังหวัดอื่นๆ รายได้มีแนวโน้มทรงตัวจากปี 2563 อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ อย่างไรก็ตาม อัตราการเข้าพักมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากส่วนใหญ่รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเพื่อไปจังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค หรือ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
ส่วนภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจโรงแรม คาดว่าจะรุนแรง เนื่องจากภาวะอุปทานส่วนเกินทั้งจากธุรกิจเดียวกันและธุรกิจบริการที่พักรูปแบบอื่น และเมื่อผนวกกับอุปสงค์ที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ทำให้การปรับราคาห้องพักทำได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวหลักที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ