“นายก”เปิด“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”คิ๊กออฟ120วันเปิดประเทศลุยต่อ9จังหวัด

01 ก.ค. 2564 | 09:39 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ค. 2564 | 11:32 น.

นายกเปิด“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ : Phuket Sandbox” ฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว คิ๊กออฟเปิดประเทศ120 วัน ต่อด้วยการนำร่องในอีก9 จังหวัดที่จะทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยว เผยตลอดเดือนก.ค.64 มียอดจองของผู้โดยสารที่จะเข้ามา Phuket Sandbox ประมาณ 11,894 คน จาก 6 สายการบิน

วันนี้ (1 กรกฎาคม 2564) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจความพร้อมการดำเนินงานเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (Phuket Sandbox) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวหลังซบเซามาอย่างยาวนาน โดยมีมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวภูเก็ตและชาวไทยทั่วประเทศในการเปิดประเทศใน 120 วัน ณ จังหวัดภูเก็ต

โครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” (Phuket Sandbox) เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการหาหนทางทดลองเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว เพื่อฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศมาตลอด โดยเลือกจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีความเหมาะสมเนื่องจากมีพื้นที่เป็นเกาะสามารถควบคุมการเข้าออกได้ และเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวมีความชื่นชอบมาอย่างยาวนาน

นายกเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อีกทั้งมีความพร้อมด้านโรงแรมที่พักบริการทางสาธารณสุขที่มีอย่างเพียงพอ โดยได้มีการเตรียมความพร้อมด้วยการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในจังหวัดซึ่งปัจจุบันฉีดไปมากกว่า 80% ของประชากรแล้ว โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวที่จะฉีดให้ครบ 100% รวมทั้ง จังหวัดภูเก็ตได้มีมาตราการในการคัดกรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตที่เข้มงวดอีกด้วย

การตรวจความพร้อมของโครงการฯ ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะตรวจความพร้อมตรวจด่านทางเข้าจังหวัดภูเก็ตในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ ท่าฉัตรไชย (ทางบก)  ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทางอากาศ) และ ท่าเทียบเรือวิสิษฐ์พันวา (ทางน้ำ) ตามโครงการท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) รวมทั้ง ความพร้อมศูนย์ปฏิบัติการ "EOC Phuket Tourism Sandbox" ซึ่งเป็น Command Center

โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทหาร ตำรวจ บริหารจัดการ กำกับติดตามการเดินทางของนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาจาก ในและต่างประเทศเข้าพื้นที่ภูเก็ต โดยจะมีระบบเชื่อมโยงกับทุกด่านเข้าออกและเชื่อมโยงศูนย์ประสานงานต่าง ๆ

ได้แก่ โรงพยาบาลรัฐและเอกชน สถานีตำรวจภูธรจังหวัด ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว ศูนย์ประสานงานโรงแรม SHA Plus Manager ศูนย์ประสานงานสถานประกอบการ SHA Plus และเชื่อมโยงกับ แอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” ตลอดเวลาที่พำนักภายในภูเก็ต  ซึ่ง EOC Phuket Tourism Sandbox จะเชื่อมโยงกับระบบกับ ศปก. ศบค. และ ศบค.มท. อีกด้วย     

นายกเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์    

โดยศูนย์ดังกล่าวจะตั้งที่ศูนย์บัญชาการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลภาคใต้ และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ติดตั้งระบบดังกล่าว เป็นการทำงานบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วน โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ตามโครงการ Phuket Sandbox คือ กรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติ  ต้องเดินทางจากประเทศตามประกาศของกระทรวงการต่างประเทศได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยมีเอกสารการรับวัคซีนจากประเทศต้นทางและเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายไทยหรือที่ WHO รับรอง กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ให้เดินทางมากับผู้ปกครองได้ มีผลการตรวจหาเชื้อ RT-PCR ก่อนการเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง และมีหลักประกันโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ

ต้องจองและทำการเข้าพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA Plus ไม่น้อยกว่า 14 คืน ซึ่งสามารถเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้มาตรการ D-M-H-T-T-A โดยไม่ต้องกักตัว  ต้องทำการติดตั้ง แอปพลิเคชั่น Morchana บนสมาร์ทโฟน และอนุญาตให้แชร์การเข้าถึงตำแหน่ง  เมื่อถึงสนามบินภูเก็ต ต้องทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR  และต้องเดินทางไปที่พักด้วยรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน SHA Plus

ไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักจนกว่าจะทราบผลตรวจว่าไม่มีการติดเชื้อ รายงานตัวและรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีก 2 ครั้ง ตามเกณฑ์ที่กรมควบคุมโรคกำหนด (วันที่ 6-7 และ 12-13)  เมื่อทำการพักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครบ 14 วันแล้ว สามารถเดินทางไปยังจังหวัดอื่นได้  หากพักในภูเก็ตไม่ถึง 14 คืน ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยเท่านั้น 

มาตรการเดินทางเข้าภูเก็ต

กรณีนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทย ต้องเป็นผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือ ครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีนชนิดแอสตร้าเซเนก้า เข็มที่ 1 มาแล้วครบ 14 วัน (สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าจังหวัดได้โดยไม่ต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด19) หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือ วิธีการ Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน

ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

หรือเป็นผู้ที่หายจากการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน โดยการแสดงหลักฐานยืนยัน ติดตั้งแอปพลิเคชัน "หมอชนะ" บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้งตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต อีกทั้ง ต้องสังเกตอาการตนเอง (Self-Monitoring) และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่ชุมชน  หรือสถานที่ที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก และให้รักษามาตรการภายใต้ D-M-H-T-T-A

ทั้งนี้ โครงการ Phuket Sandbox จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่องให้สามารถกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ที่ปลอดภัย เพื่อให้การท่องเที่ยวของไทยกลับมาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประมาณการณ์นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ภายใต้โครงการ  Phuket Sandbox จำนวน 100,000 คน ในไตรมาส 3 (เดือน ก.ค. - ก.ย. 64) ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้อยู่ที่ 8.9 พันล้านบาท

“นายก”เปิด“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”คิ๊กออฟ120วันเปิดประเทศลุยต่อ9จังหวัด

ทั้งนี้ ตลอดเดือนกรกฎาคม 2564 มียอดจองของผู้โดยสารที่จะเข้ามา Phuket Sandbox ประมาณ 11,894 คน  ข้อมูลจาก 6 สายการบิน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้าประมาณ 8,281 คน ขาออก 3,613 คน คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินทั้งหมดประมาณ 426 เที่ยวบิน เฉลี่ยที่ประมาณ 13 เที่ยวบิน/วัน  และวางพื้นที่เป้าหมายเปิดประเทศ ลำดับถัดไป คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า) เริ่มวันที่ 15 กรกฎาคม 2564

“นายก”เปิด“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”คิ๊กออฟ120วันเปิดประเทศลุยต่อ9จังหวัด

รวมถึงพื้นที่ Extension Sealed Route ได้แก่ กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) พังงา (เขาหลัก และเกาะยาว) เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง และดอยเต่า) ชลบุรี (พัทยา บางละมุง และสัตหีบ) บุรีรัมย์ (อำเภอเมือง และสนามช้างอารีนา) ซึ่งจะเปิดในวันที่1 กันยายน 2564

“นายก”เปิด“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”คิ๊กออฟ120วันเปิดประเทศลุยต่อ9จังหวัด

สำหรับกรุงเทพฯ เพชรบุรี (ชะอำ) และประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) จะเปิดในวันที่ 1 ตุลาคม และเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่กักตัว ภายในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ ในแต่ละพื้นที่ จะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องมาตรการ ข้อกำหนด ข้อปฏิบัติอย่างชัดเจน ก่อนที่จะดำเนินการเปิดรับนักเที่ยวอย่างจริงจังต่อไป