“หมอบุญ” ชี้ โมเดอร์นา โดนหั่นโควต้าเหลือ3.7 ล้านโด๊ส แนะนายกต้องยกหูเจรจา
หมอบุญ ชี้ยอดจองโมเดอร์นา ทะลุ 9 ล้านราย พร้อมทุ่ม 15,000 ล้านบาทวางมัดจำ ล็อตแรก5ล้านโด๊ส ยอมรับอาจได้รับวัคซีน 1ใน3ของยอดจอง เหตุหน่วยงานรัฐ-รพ.รามา ขอแบ่งเค้ก แนะใช้ทางลัดนายก ยกหูเจรจา
นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป เปิดเผยผ่านรายการ Live! กรุงเทพธุรกิจ BIZ INSIGHT วันนี้ 5 ก.ค. 2564 ในประเด็น การตั้งคำถามถึงความล่าช้าในการสั่งซื้อวัคซีนทางเลือกของรัฐบาลทั้งโมเดอร์นา และ ไฟเซอร์ จนมีการตอบโต้กันไปมา และประเด็นคนไทยมากกว่า 9 ล้านคนยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินเองเพื่อจองซื้อวัคซีนจากภาคเอกชนว่า
ยอดจองซื้อวัคซีนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้สูงมาก แต่วัคซีน โมเดอร์นา ล็อตแรก 5 ล้านโด๊ส ตอนนี้ถูกหน่วยราชการหน่วยงานหนึ่งขอแบ่งไป1 ล้านโด๊ส ในขณะโรงพยาบาลรามาขอแบ่งเพิ่มไปอีกบางส่วน ฉะนั้นตอนนี้ในฝั่งของโรงพยาบาลเอกชนอาจจะได้รับวัคซีนประมาณ 3.7-3.9 ล้านโด๊ส ในขณะที่ยอดจองจากฝั่งประชาชนมีประมาณ 9 ล้านกว่าคน
สำหรับโรงพยาบาลในเครือของ “ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป” ปัจุบันมียอดจองอยู่ที่ 2 ล้านโด๊ส ไม่รวมกับบริษัทประกันที่แจ้งความจำนงเป็นพิเศษอีกราวๆ 4-5 แสนโด๊ส ซึ่งทางเครือโรงพยาบาลได้ตัดความจำนงจากบริษัทประกันชีวิตทิ้งไป โดยให้สิทธิ์ประชาชนทั่วไปก่อน
“ความต้องการตอนนี้เกินกว่าที่ความสามารถในการจัดหาวัคซีนจะรองรับได้ ตอนนี้ทางโรงพยาบาลเอกชนก็อาจจะได้วัคซีนกันไม่ครบตามที่มีผู้ลงทะเบียนจองไว้
ในส่วนของวัคซีนไฟเซอร์ที่จะเข้ามาภายในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ 1.5 ล้านโด๊สควรจะฉีดบุคลากรทางการแพทย์ก่อน เพราะในประเทศ อินโดนีเซีย มีบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดซิโนแวค ครบ2 เข็มและติดโควิด กว่า 300 คนและที่โรงพยาบาลธนบุรีเอง มีพยาบาล ติดโควิดรักษาตัวในห้อง ICU 2คน
ชี้ให้เห็นว่าซินโนแวคไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ในขณะที่ต่างประเทศมีการวิจัยมาแล้วว่าฉีดวัคซีนmRNAเป็นเข็ม 3 หรือเข็ม 2 จะทำให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น 20-100 เท่า เพราะฉะนั้นทุกคนอยากได้วัคซีนที่คุณภาพดีมาฉีดเป็นเข็มที่ 2 หรือเข็มที่ 3
ส่วนประเด็นความล่าช้าของการนำเข้าวัคซีน ต้องถามทางกระทรวงสาธารณสุข เพราะทางฝั่งของโรงพยาบาลเอกชนพยายามที่จะนำเข้าวัคซีนทางเลือกตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และมีการต่อรองกันมาตลอดเวลา แต่รัฐบาลบอกว่าวัคซีนนี้เป็นวัคซีนภาวะฉุกเฉินไม่สามารถนำเข้าได้
จนกระทั่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเกิดการระบาดหนัก รัฐบาลจึงเปิดช่องให้เอกชนสามารถสั่งจองวัคซีนที่รัฐบาลไม่ได้สั่งจองไว้ ทางโรงพยาบาลเอกชนจึงเลือกสั่งจองโมเดอร์นา แต่กลับติดขัดในขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การเรียกประชุม ยื่นความจำนง ซึ่งกว่าจะแล้วเสร็จและจะได้รับวัคซีนในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่สามารถที่จะรอได้ และต้องการวัคซีนภายในกรกฎาคมไม่ช้ากว่าเดือนสิงหาคม
“จดหมายจากกระทรวงพึ่งออกมาว่าให้ยืนยันยอดโอน ง่ายๆคือตั้งแต่เดือนเมษายนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ทุกคนไม่เข้าใจว่าทำไมใช้เวลานานขนาดนั้น ทั้งที่โรงพยาบาลเอกชนเปิดให้จองซื้อวัคซีนครั้งแรกในเดือนที่ผ่านมาเกิน 5 ล้านโด๊สอยู่แล้ว มันเป็นระบบของราชการที่มีขั้นตอนเยอะกฎหมายเยอะ
ตอนนี้รัฐบาลจะแจ้งให้เรายื่นความจำนงในสิ้นเดือนนี้และวางเงินมัดจำภายใน 2 วันหลังจากยื่นความจำนง แต่ผมมองว่าเราไม่รอได้ไหม และกำลังเจรจาสรุปให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้และวางเงินเลยจะได้ประหยัดเวลาไปอีก 2 สัปดาห์
เพราะตอนนี้เราตรวจเจอยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มประมาณ 6,000 คนแต่ในความเป็นจริงมีผู้ติดเชื้อมากกว่ายอดที่เราเห็นประมาณ 4 เท่าจากคนที่ยังไม่ได้รับการตรวจเชื้อ เท่ากับว่ามีคน 20,000 คนติดเชื้อทุกวัน ซึ่งเป็นยอดยกกำลัง 2.4 เท่าและเชื้อตัวใหม่ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก1.4 เท่า เพราะฉะนั้นแสดงว่าวันหนึ่งมียอดผู้ติดเชื้อจริงๆ 4-5 หมื่นคนถ้าเราช้าไป 1 วันเชื้อโรคก็จะยิ่งกระจายไปเร็ว”
ประเทศไทยล่าช้ามา 4 เดือนแล้วในเรื่องวัคซีนและเอกชนไม่สามารถเร่งรัฐบาลได้ ทำได้เพียงแนะนำและแสดงความพร้อมที่จะช่วยเหลือรัฐบาล ในส่วนของวงเงินวางมัดจำ ทางโรงพยาบาลเอกชนไม่มีปัญหาสำหรับเรื่องนี้ และเครือโรงพยาบาลธนบุรีเอง สำรองเงินกว่า 15,000 ล้านบาทเพื่อวางมัดจำนำเข้าวัคซีน
จากการติดต่อสอบถามจากทางผู้ผลิตเบื้องต้นยืนยันว่าสามารถจัดส่งวัคซีนล็อตแรก 5 ล้านโด๊สภายในตุลาคมนี้ แต่ล็อตใหม่ที่ขอเพิ่มอีก 5 ล้านโด๊สคาดว่าต้องขึ้นอยู่กับทางสหรัฐจะปล่อยวัคซีนให้หรือไม่เพราะตอนนี้สหรัฐมีวัคซีนอยู่ 1,400 ล้านโด๊สและมีวัตถุดิบสำหรับผลิตอีก 2.5 พันล้านโด๊ส ซึ่งประธานาธิบดี โจ ไบเดน บริจาค 1,000 ล้านโด๊ส ผ่านโครงการโคแว๊กซ์ ขององค์การอนามัยโลก
“ตอนนี้ยอดจองวัคซีน 9 ล้านคน แต่เราน่าจะได้วัคซีนอยู่ที่ 3.7 - 3.9 ล้านโด๊สโดยได้รับ3.9 ล้านโด๊สและอีก 1.1 ล้านโด๊สภายในต้นปีหน้า เพราะฉะนั้นคนที่จองกับเราตอนนี้โอกาสที่จะได้วัคซีนคือ 1 ใน 3 ใครจองก่อนได้ก่อน
เมื่อเร็วๆนี้สหรัฐส่งวัคซีนไปให้ไต้หวัน เวียดนาม ฟิลิปปินส์หรือแม้แต่ ลาว ทั้งไฟเซอร์ และโมเดอร์นา เพราะตอนนี้เอกชนทำอะไรไม่ได้เพราะเขาไม่ให้เอกชนทำ ตอนนี้เราอาจจะต้องใช้ช่องทางพิเศษขึ้นอยู่กับการเมืองแล้ว ถ้าทางการค้าและทางธุรกิจทำไม่ได้ก็ต้องให้นายกคุยอย่างเดียว ขนาดผมยังคุยได้ ทำไมนายกจะ ยกหูขอไม่ได้