“อิตาลี” จัดว่าเป็นประเทศในฝันของคนไทยหลายคน โดยเฉพาะ “เวโรน่า” เมืองเล็กๆในแคว้นเวโนโต ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองต้นกำเนิดผลงานจากปลายปากกา ของ วิลเลียม เชกสเปียร์ กับโศกนาฏกรรมรักสุดคลาสิค อย่าง โรมิโอ-จูเลียต
ในยุคโควิด-19 เมื่อบินไปต่างประเทศไม่ได้ แต่โหยหาบรรยากาศ เมืองโรแมนติก แห่งอิตาลี ไม่ต้องบิน ก็ฟินได้ @ “เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน” อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุริ
“เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน” เป็นทั้งโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยว ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯราว 3 ชั่วโมง โลเคชั่นอยู่ตรงข้ามกับอุทยานแห่งชาติทับลาน มาที่นี่ไม่เพียงได้สูดโอโซนบริสุทธิ์อันดับ 7 ของโลกเท่านั้น แต่บนพื้นที่กว่า 300 ไร่แห่งนี้ ถูกเนรมิตให้เป็นเมืองเวโรน่า “ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งการพักผ่อน” ที่ค้นพบได้ ณ จ.ปราจีนบุรี ดูแผนที่การเดินทาง โดย Google Map
ทริปเที่ยวชิลล์ๆ 2 วัน 1 คืน เราเช็คอินกันที่นี่ ใช้สิทธิโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เลยเซฟเงินกระเป๋าไปได้กว่า 40% เราจ่ายแค่ 60% เริ่มต้น1,200 บาท ดูรายละเอียด
https://www.veronaattublan.com
เข้ามาถึงอาณาจักร “เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน” เหมือนหลุดเข้ามายังอีกโลกหนึ่ง จากสถาปัตยกรรมที่มาเต็มเลยจ๊ะ จากแรงบันดาลใจของเมืองเวโรน่า ต้นฉบับของอิตาลี สอดแทรกธีมคาวบอย ยุค 1800 ในสไตล์อเมริกัน ตะวันตก ในบางโซน
ที่นี่มีห้องพักหลายสไตล์ให้เลือก ถ้าชอบพักลุยๆเปิดประสบการณ์ใหม่ในวันพักผ่อน ท่ามกลางเอ้าท์ดอร์ ห้องพักในสไตล์ Tipi House ออกแนว กระโจมอินเดียแดง ซึ่งมีอยู่แค่ 6 หลัง พักได้2-3 คน น่าจะตอบโจทย์แถมโซนนี้ยังเปิดให้คุณนำน้องหมา สัตว์เลี้ยงแสนรักมาเข้าพักได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีห้องพักในสไตล์เวสเทิร์น โฮเทล มีแค่ 10 ห้อง ให้ฟิลลิ่งการพักผ่อนสไตล์คาวบอยไปเต็มๆ เพราะตกแต่งเหมือนย้อน กลับไปอยู่ในช่วง คาวบอย ยุค 1800 แต่ถ้ามาเป็นหมู่คณะ ก็มีที่พักสไตล์ Barn House เป็นตัวเลือก เข้าพักได้ตั้งแต่ 4 คน 10 คน และ 16 คน ขณะที่ห้องพักแบบเต้นท์ แคมป์ ก็เก๋ดี
แต่สำหรับสายหวาน ถ่ายรูปสวยๆน่ารักๆ และชื่นชอบที่พักแบบสบายๆจัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวก เราเลยเลือกพัก ในโซนบูติก โฮเทล โดย “เวโรน่า บูทีค โฮเทล” โดนใจเราสุดๆกับบรรยากาศหมู่บ้านสไตล์อิตาลี ที่ถูกจำลองขึ้น บ้านเป็นหลังๆสีสันสดใส เข้าธีมของที่นี่ ซึ่งแต่ละห้องจะมีการตกแต่งไม่ซ้ำกัน รายล้อมรอบทะเลสาบ และวิวภูเขา
โซนบูติก โฮเทล มีห้องพัก 70 ห้อง ใน 6 รูมไทร์ แต่ด้วยความที่เรามาเป็นครอบครัวเลยเลือกห้องพักในแบบ แฟมิลี สวีท วิวทะเลสาบ โดยเป็นห้องพัก 2 ชั้น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มู้ธแอนด์โทน ให้ฟิลลิ่งเหมือนพักผ่อนอยู่ในยุโรป
กิจกรรมห้ามพลาดใน หลังเช็คอินเรียบร้อย ก็ถึงเวลานั่งรถชมเมือง โดยทางโรงแรมจะจัดรถวนเป็นรอบๆนำเราเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวต่างๆใน “เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน”
จุดหมายแรกเริ่มจาก “เวโรน่าฟาร์ม” ลงถ่ายรูปกับทุ่ง “ดอกเวอร์บีน่า” สีม่วงสด ดอกเล็กๆน่ารัก เคล็บลับที่จะได้ภาพสวยๆแนะนำว่าให้ใส่ชุดสีขาว ลงทุนซื้อตระกร้าใส่ช่อดอกเวอร์บีน่า ที่มีขายอยู่หน้าทางเข้า คล้องแขนเข้าไปถ่ายรูป เป็นพร็อพถ่ายรูป ภาพออกมาดูน่ารักฯฟรุ้งฟริ้งมากเลย
นอกจากนี้ยังมี “ดอกดราก้อนเบส” สีแดงสด โดยเราไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ก็ได้รูปสวย ซึ่งลูกค้าของโรงแรมสามารถเข้าชมได้ฟรี แต่ถ้าไม่ได้มาพักแต่มาเที่ยว ค่าเข้าชมจะอยู่ที่คนละ 50 บาท
ถ่ายทุ่งดอกไม้เสร็จ ขึ้นรถต่อไปยังจุดหมายต่อไป “เวโรน่า แอดเวนเจอร์” ที่นี่กิจกรรมผจญภัยให้เลือกเล่นมากมาย อาทิ โหนสลิง,สวิงโรป,ขับรถ ATV ,ล่องเรือกอนโดล่า ริมทะเลสาบการ์ดา สุดโรแมนติก,ปีนหน้าผา,สไลด์เดอร์ ซึ่งในแต่ละกิจกรรมจะมีราคาแตกต่างกัน ตั้งแต่150-400 บาท
จากนั้นไปต่อกันที่ “ เวโรน่า เท็กซัส คาวบอยทาวน์ ” โลกแห่งคาวบอย คุณจะขี่ม้า นั่งรถม้าชมบรรยากาศก็ได้ฟิลไปอีกแบบ
หรือจะให้อาหารสัตว์ก็ได้ แถมวันที่เราไปเยือน ก็มีน้องหมา สกูบี้-ดู ตัวใหญ่ใจดี ของที่นี่มาคอยต้อนรับด้วย
สำหรับจุดหมายสุดท้ายของการนั่งชมเมือง คือ “เวโรน่า คอมมูนิตี้มอลล์” หน้าทางเข้า เวโรน่า บูทีค โฮเทล
พลาดไม่ได้เลยกับการ ขึ้นไป ชมวิวหอคอย Lamberti
จากนั้นข้ามสะพาน Castelvecchi เหนือทะเลสาบGarda อันกว้างใหญ่ เพื่อเข้าสู่คอมมูนิตี้มอลล์ แล้วไปขอพรความรักกับรูปปั้นจูเลียต ทึ่งเลยกับสถาปัตยกรรมที่จำลองออกมาในขนาดสมจริง เหมือนเรากำลังมาเที่ยวเมืองเวโรน่า ประเทศอิตาลีเลย
แล้วไป ขอพรความรักกับรูปปั้นจูเลียต ทึ่งเลยกับสถาปัตยกรรมที่จำลองออกมาในขนาดสมจริง เหมือนเรากำลังมาเที่ยวเมืองเวโรน่า ประเทศอิตาลีเลย
สนุกกับกิจกรรมหลากหลาย จนบ่ายคล้อย ก็ถึงเวลาไปเตรียมตัวว่ายน้ำ ท่ามกลางสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ พูล ที่ยื่นออกไปในทะเลสาบ แม้สระว่ายน้ำอาจจะเล็ก แต่ก็ได้อินกับวิวสวยในมุมมองแบบ180องศา
ใครไม่อยากว่ายน้ำ ก็ไปเช่าจักรยาน ปั่นชมฟาร์มก็ได้ฟิลไปอีกแบบ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการนั่งชมอาทิตย์ตกดิน ในแบบสุขใจ
แหล่งไดนิ่งของที่นี่แนะนำ “BLACKWOOD BAR & RESTAURANT” ห้องอาหารแบบออลเดย์ ไดนิ่ง ถ้าชอบวิวทะเลสาบก็เลือกนั่งในในโซนเอ้าท์ดอร์ แต่ถ้ากลัวร้อน ก็เลือกนั่งในโซนอินดอร์จะดีกว่า นอกจากอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์แล้ว มื้อดินเนอร์ที่นี่ใช้ได้เลย กับรสชาติอาหารสไตล์ไทย-อิตาเลียน สไตล์ฟิวชั่น รสชาติถูกปาก ซึ่งไหนๆเราใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกัน ก็ได้เวาเชอร์ 600 บาทมาด้วย ก็เลยนำมาจ่ายเป็นค่าอาหารซะเลย
อาหารอร่อย กับดีไซน์เข้าธีมเมืองแห่งรัก ของ เวโรน่า ทับลาน ก็ทำเราฟินเหมือนมาเที่ยวอิตาลีเลยอ่ะ
คอลัมภ์ : ดีแต่เที่ยว (เช็คที่กิน ฟินเรื่องเที่ยว) By ธนวรรณ วินัยเสถียร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เที่ยว “สมุย” ขึ้น "เกาะมัดสุม" ไปหา หมูทะเล ( END)
เที่ยว “สมุย” ไปหา“หมูทะเล” ( Ep.1)