สธ.เปรย ผู้ติดเชื้อโควิด -19 เริ่มทรงตัว หลังควบคุมจุดแพร่เชื้อได้

12 ม.ค. 2564 | 13:55 น.

กระทรวงสาธารณสุข เผย การระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่เริ่มคงตัว จากการค้นหาและควบคุมจุดแพร่ระบาดที่สำคัญ พร้อมตรวจติดตามผู้สัมผัสและผู้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ย้ำสถานที่แออัด มีความใกล้ชิด และไม่สวมหน้ากากเป็นปัจจัยเสี่ยงทำระบาดในวงกว้าง

นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ข้อมูลการระบาดระลอกใหม่ไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ถึงปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 287 ราย ทำให้ยอดสะสมของการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2563 รวม 6,597 ราย ครึ่งหนึ่งมาจากระบบบริการและเฝ้าระวัง และอีกครึ่งหนึ่งมาจากการค้นหาเชิงรุก รักษาหายกลับบ้านสะสม 2,792 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาล 2,588 ราย จำนวนนี้อาการหนัก 28 ราย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 11 ราย และยังอยู่โรงพยาบาลสนาม 870 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 0.1%

จังหวัดสีแดงที่มีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 50 ราย พบใน 10 จังหวัดได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง กทม. สมุทรปราการ จันทบุรี นนทบุรี นครปฐม อ่างทอง และปทุมธานี จังหวัดล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่คือ จ.ร้อยเอ็ด เป็นหญิงไทยที่ทำงาน จ.ชลบุรี เดินทางกลับบ้านช่วงปีใหม่ และเริ่มมีอาการวันที่ 9 ม.ค. ได้รับการสอบสวนควบคุมโรคตามแผนงานที่กำหนด 


อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์นี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดย จ.สมุทรสาคร ผู้ติดเชื้อรายใหม่คงตัว ค้นหาเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ส่วนจ.นนทบุรี ไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ จ.ระยองและจันทบุรี แนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มคงตัวและลดลง แต่ จ.ชลบุรียังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ เกี่ยวเนื่องกรณีบ่อนพนัน และการติดเชื้อต่อเนื่องใน อ.ศรีราชา โดยจะค้นหาเชิงรุกกว้างขวางยิ่งขึ้น

ภาพรวมการระบาดระลอกใหม่เริ่มคงตัว จากการค้นหาและควบคุมจุดแพร่ระบาดที่สำคัญ การติดตามผู้สัมผัสและผู้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ส่วนปัจจัยเสี่ยงของการระบาดเป็นวงกว้างในระลอกใหม่ คือ การอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัดอยู่ใกล้ชิดกัน และไม่สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า และการเข้ามาของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ ทั้งนี้ การควบคุมโรคจะสำเร็จได้ ต้องควบคุมและจำกัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง การปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยง และค้นหาประชากรที่มีความเสี่ยงให้ได้รับการคัดกรอง รวมทั้งขอประชาชนร่วมมือยกระดับมาตรการองค์กรและมาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันควบคุมโรค