‘ท่องเที่ยว’ขอวัคซีนโควิด 5 ล้านโดส

04 ก.พ. 2564 | 20:20 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.พ. 2564 | 02:24 น.

รัฐมนตรีท่องเที่ยวหารือนายกฯขอกันวัคซีน 5 ล้านโดสให้กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมผลักดันพาสปอร์ตวัคซีน ใครฉีดแล้วเข้าประเทศได้ไม่ต้องกักตัว 14 วัน รับแผนเปิดต่างชาติกลับไทยไตรมาส 3 ปีนี้ ภูเก็ตชูยุทธการ #phuketfirstoctober ลั่นเอกชนพร้อมหาฉีดเอง     

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เตรียมหารือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอกันวัคซีน 5 ล้านโดส โดยคาดว่ามีจำนวน 2.5 ล้านคน ฉีดให้กลุ่มพนักงานภาคการท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงสูง  อาทิ ผู้ที่มีหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ พนักงานโรงแรม พนักงานร้านอาหาร คนขับรถนำเที่ยว พนักงานสปา เน้นเมืองท่องเที่ยวหลัก 7 จังหวัด คือ ชลบุรี กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี และสงขลา ได้ฉีดก่อนเป็นกลุ่มแรก ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น  ตามแผนที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ที่ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยที่ 5-10 ล้านคน

 

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) ระบุว่า ททท.จะหาวิธีดึงชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วมาเที่ยวไทย รวมถึงอยากให้มีพาสปอร์ตวัคซีน และให้หารือร่วมกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว (NTO) ของประเทศในอาเซียน เพื่อออกพาสปอร์ตร่วมกันภายใต้มาตรฐานเดียวกัน สามารถเดินทางเข้าออกประเทศกลุ่มอาเซียนโดยไม่ต้องกักตัวได้

 

อีกทั้งททท.จะเริ่มทำการตลาดเชิงรุก โดยได้เริ่มหารือกับสายการบินตะวันออก เช่น เอมิเรตส์ การ์ตาร์ แอร์เวย์ส โรงแรมและผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อขายแพ็กเกจท่องเที่ยวแบบ All Inclusive ที่จะเริ่มขายในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย ที่คาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้

 

รวมถึงล่าสุดภาคเอกชนกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต ได้ร่วมหารือถึงแผนการระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเปิดประตูธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 โดยไม่ต้องกักตัว และการระดมสรรพกำลังสนับสนุนให้คนภูเก็ต และพนักงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต ได้รับวัคซีนเป็นจำนวนอย่างน้อย 70% ของประชากร ภายใต้ยุทธการ #phuketfirstoctober เนื่องจากเริ่มเห็นความหวังฟื้นการท่องเที่ยว

 

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากแนวคิดเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 โดยไม่ต้องกักตัว หรือ #phuketfirstoctober ทางทีมภูเก็ตได้ประเมินความเป็นไปได้จากปัจจัย 5 ข้อ ที่ขอความชัดเจน ประกอบไปด้วย

 

1. นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วยังจะต้องกักตัวหรือไม่  หากไม่ต้องแล้วจำกัดหรือไม่ว่าต้องเป็นวัคซีนตัวไหน ถ้าไม่ใช่ของ Sinovac หรือ AstraZenagaที่ทางการรับรองแล้ว จะ พิจารณาอย่างไร 2. แผนจัดสรรวัคซีนให้คนภูเก็ตเป็นอย่างไร  3. รัฐจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)จัดหาวัคซีนให้ประชาชนในเขตได้หรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกรอบเวลาของพื้นที่

 

4. ขยายการขึ้นทะเบียนวัคซีนตัวอื่นที่ใช้ในหลายประเทศเพื่อให้มีเพียงพอใช้งาน 5. นโยบายให้เอกชนจัดซื้อวัคซีนฉีดให้พนักงานของแต่ละธุรกิจเองตามกำลังของแต่ละองค์กร

 

ทั้งนี้เราสนับสนุนให้คนภูเก็ต และพนักงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต ได้รับวัคซีนเป็นจำนวนอย่างน้อย 70% ของประชากร ครบ 2 เข็มภายใน 1 กันยายน 2564 เพื่อสามารถสร้างภูมิต้านทาน และเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

 

“ทีมเอกชนภูเก็ตได้เจรจาขอซื้อวัคซีนจากเครือโรงพยาบาลเอกชนไปบ้างแล้ว หากรัฐบาลเห็นชอบแนวทางที่ภาคเอกชนเสนอ เราน่าจะเริ่มฉีดเข็มแรกของ Sinovac ได้ก่อนสงกรานต์ และทยอยฉีดในส่วนภาคเอกชนให้ครบตามแผนที่วางไว้ เอกชนภูเก็ตตกลงกันแล้วว่าพนักงานที่ทำงานโดยเฉพาะส่วนภาคท่องเที่ยวจะจ่ายเงินค่าวัคซีนกันเอง เพื่ออนาคตเรา เราลงทุนเอง” นางสาวเชิญพร กาญจสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติม

 

ที่มา : หน้า 2 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,650 วันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ซีอีโอไมเนอร์ ร้อง"นายกประยุทธ์"ชง 4แนวทางบริหารวัคซีนโควิดต่อธุรกิจท่องเที่ยว

วัคซีนโควิด-19 “หมอยง” เผย Sputnik V ของรัสเซียประสิทธิภาพสูงถึง 91/6%

วัคซีนโควิด-19 "อนุทิน" ยันคนไทยฉีดฟรีเริ่มเดือนมิถุนายน