แจงยิบ14คำถามปมกังขา“วัคซีนโควิด-19“ นายกประยุทธ์ตอบทุกข้อ(มีคลิป)

07 ก.พ. 2564 | 09:30 น.

นายกประยุทธ์ ตอบทุกคำถามรวมกว่า 14 ข้อ ปมข้อสงสัย “วัคซีนโควิด-19” ทั้งการจัดซื้อ การแจกจ่ายวัคซีนของไทย การสนับสนุนงบประมาณให้กับสยามไบโอไซเอนซ์ รวมถึงข้อสงสัยการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนบางราย

วันนี้ (วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวผ่านเพจไทยคู่ฟ้า เพจไทยคู่ฟ้า ในรายการ PM PODCAST หัวข้อ “วัคซีนโควิด-19 ที่ต้องปลอดภัยและเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม”

1.สาเหตุใดประเทศไทยจึงไม่มีการจัดซื้อวัคซีนให้ครอบคลุมจำนวนประชากรที่เหมาะสม และแผนการฉีดวัคซีนของประเทศไทยมีความล่าช้าเกินหรือไม่ ในอนาคตประเทศไทยมีแผนแจกจ่ายวัคซีนระยะยาวอย่างไร

ความพยายามและการดำเนินการในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ริเริ่มในเดือนธันวาคม 2563 ภายหลังเห็นเงื่อนไขต่างๆ จากทั้งผู้ผลิตวัคซีนและการเข้าร่วมโครงการ COVAX เป็นการจองวัคซีนล่วงหน้า โดยที่ยังไม่ทราบผลทดลองเฟส3 คือ การทดลองในมนุษย์ ประเทศไทยในขณะนั้นยังไม่มีกลไกจัดหาวัคซีน ที่มีเงื่อนไขในการจ่ายเงินก่อน โดยมีโอกาสที่จะไม่ได้รับวัคซีนหากการวิจัยล้มเหลว

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กรมควบคุมโรค ได้ประสานขอคำปรึกษาหน่วยงานด้านกฎหมายของประเทศ ได้แก่ กฤษฎีกา อัยการสูงสุด สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง ก็ได้รับหนังสืบตอบกลับจากกรมบัญชีกลางว่า ไม่สามารถจัดซื้อได้ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2560 ได้ นี่คือกฏหมายที่มีอยู่แล้ว เราจึงได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข มาตรา 18 ของพ.ร.บ.ความมั่นคงทางวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ.2561 เพื่อให้สามารถจองวัคซีนโควิด-19 ล่วงหน้าได้ตามกฎหมาย

แผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้มีการเตรียมการไว้เพื่อกระจายวัคซีนไปยังกลุ่มประชากรตามลำดับความสำคัญที่จะต้องสอดคล้องกับปริมาณวัคซีนที่จะส่งมอบ เพราะจองไปเท่าไหร่ก็ตาม ไม่ได้มาพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนมีทั้งรายวัน รายเดือน รายปี และเป็นความต้องการของหลายประเทศทั่วโลกในขณะนี้ด้วย ต้องไปทำความเข้าใจให้ตรงกัน

2.มีการกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนบางรายไม่เหมาะสมหรือไม่

การจัดซื้อวัคซีนเป็นการพิจารณาตามคุณลักษณะของวัคซีนโควิด-19 ซึ่งได้แก่ รูปแบบการวิจัยและพัฒนา คุณภาพและประสิทธิภาพ รวมถึงระยะเวลาในการส่งมอบ การบริหารวัคซีนที่ใช้ในวงกว้าง การจัดเก็บ การขนส่ง การให้บริการในการฉีด ประโยชน์ระยะยาวและความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ เช่น มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต การพัฒนาเพื่อต่อยอดภายในประเทศต่อไปในอนาคต ซึ่งอาจจะเกิดโรคระบาดอื่นได้ตลอดเวลา หลายครั้งมีโรคระบาดร้ายแรงเกิดขึ้นในประเทศไทยและโลก จึงต้องเตรียมการไว้วันหน้า

แจงยิบ14คำถามปมกังขา“วัคซีนโควิด-19“ นายกประยุทธ์ตอบทุกข้อ(มีคลิป)

3.สาเหตุใดรัฐบาลจึงไม่มีการจัดซื้อวัคซีนหลายบริษัท แต่เน้นซื้อ 2 บริษัท คือ บริษัท AstraZeneca และ บริษัท Sinovac เท่านั้น ถือเป็นความประมาทของรัฐบาลหรือไม่ 

ถ้าไม่มีการตรวจสอบ คัดกรอง ติดตามและประเมินผล นั่นถือว่าจะเป็นการประมาทมากกว่า เพราะจะมีคนรับผลกระทบจากความเสี่ยงสูงมาก การจองวัคซีนโควิด-19ล่วงหน้าเป็นการแบกรับความเสี่ยง ซึ่งการที่เราจองซื้อวัคซีนของ AstraZeneca เป็นบริษัทแรกนั้น ได้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันกับการประกาศผลวัคซีน 3 บริษัทในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ Pfizer และ Moderna และ AstraZeneca

ทำให้เราคาดการณ์ได้ว่า เราจะมีวัคซีนอีกหลายรูปแบบที่จะทยอยประกาศความสำเร็จในการวิจัย โดยที่เราต้องมีข้อมูลในการจองซื้อวัคซีนที่ประเทศ ไม่ได้แบกรับความเสี่ยง ทั้งในเรื่องความปลอดภัย ประสิทธิผลในการป้องกัน การบริหารจัดการวัคซีนบางชนิด ที่อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อุณหภูมิ การจัดเก็บ การขนส่ง

4.การคัดเลือกบริษัทเอกชนที่รัฐบาลจะให้เงินสนับสนุนมีวิธีการและขั้นตอนอย่างไร มีสัญญาจ้างและแผนการดำเนินการอย่างไร

เราได้มอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติประเมินศักยภาพในผู้ผลิตวัคซีนทุกแห่ง มีคณะอนุกรรมการพิจารณาข้อเสนอของเอกชน ก่อนให้กรรมการสถาบันวัคซีนแห่งชาติเห็นชอบ ในส่วนงบประมาณต่างๆใช้จากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของในแผนงานด้านสาธารณสุข โดยมีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กลั่นกรอง ก่อนนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ

5.แผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ร้อยละ 21.5 ของจำนวนประชากร ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชนได้ และไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างแท้จริงหรือไม่

วันนี้เราจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ วันนี้ได้มาเท่าไหร่ก็ฉีดเท่านั้นก่อน แต่ไม่ได้หยุดยั้งในการหายี่ห้ออื่นเพื่อจัดหาเพิ่มเติม วันนี้เราจัดหาได้ 63 ล้านโด๊ส ครอบคลุมประชากร 31.5 ล้านคน และจัดหาเพิ่มเติมได้อีกตามระยะเวลาเพื่อให้ครอบคลุมจำนวนประชากรทุกกลุ่มเป้าหมายตามความสมัครใจ 

 

6.และถ้าบริษัท AstraZeneca ไม่สามารถจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ได้ตามข้อตกลง รัฐบาลมีแผนการดำเนินการอย่างไรต่อไป 

คำตอบของผม คือการจัดหาวัคซีนจากบริษัทอื่นสามารถทำได้ และกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง บนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด อีกทั้งสายการผลิตที่ AstraZeneca สามารถจัดหาวัคซีนจากแหล่งการผลิตที่มีอยู่ทั่วโลก ประเทศไทยเป็นแหล่งหนึ่งเท่านั้นของบริษัทนี้ อันนี้ถือเป็นการบริหารความเสี่ยงอีกทางหนึ่งด้วย 

7.สาเหตุใดจึงไม่ให้องค์การเภสัชกรรมที่มีโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 แทนบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่ต้องทำโรงงานวัคซีนให้พร้อมก่อน ซึ่งใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4 เดือน กว่าจะผลิตวัคซีนได้จริง

อันนี้เดี่ยวข้องเข้าใจกัน เข้าใจผิดหรือเปล่า องค์การเภสัชไม่สามารถผลิตวัคซีนชนิด virus vector ได้ วัคซีนไม่เหมือนกัน และบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ไม่ได้รอสร้างโรงงานให้พร้อม เวลาที่รออยู่ คือ รอเวลาผลิตจริงตามมาตรฐานของ AstraZeneca ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เพื่อให้มีการขึ้นทะเบียนโดยอย.ไทย และเตรียมความพร้อมของบริษัทด้วยซึ่งวันนี้พร้อมแล้วทั้งหมด เมื่อได้วัคซีนมาก็ดำเนินการได้ทันที เราจะเป็นสายการผลิตหนึ่งในประเทศไทยและในอาเซียน และมีบริษัทอื่น ๆ ที่ร่วมกับ AstraZeneca ในภูมิภาคอื่นและประเทศอื่นอีกด้วย เป็นยอดรวมของ AstraZeneca ที่มีการสั่งจองจากทั่วโลก

 

8.สาเหตุใดจึงให้บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ที่มีผลขาดทุน 581 ล้านบาท ผูกขาดผลิตวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยเพียงรายเดียว และจะสามารถผลิตวัคซีนได้ทันเวลาหรือไม่

อันนี้ต้องเข้าใจนะครับว่า การที่เราจะเอาวัคซีนโควิด-19 มาผลิตในประเทศเอง ขึ้นอยู่กับ AstraZeneca ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จะเป็นผู้คัดเลือกเอกชนที่จะร่วมมือกันกับเขา พิจารณาจากความสามารถ ศักยภาพบุคลากรและเครื่องมือ เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับ AstraZeneca ไม่เกี่ยวกับผลประกอบการเดิม แล้วบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่าตั้งมาเมื่อไหร่ ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงตั้งไว้เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้มีวัคซีนที่จำเป็น ไม่ได้หวังผลกำไร กำไร คือ ประชาชนได้ประโยชน์ จะขาดทุนหรือกำไรอย่าเอาตรงนั้นมากังวล รัฐบาลได้ให้หลายบริษัทได้เข้ามาเสนอแล้ว แต่ AstraZeneca เลือกบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ไปล็อคไม่ได้อยู่แล้ว ขอให้เข้าใจด้วย

แจงยิบ14คำถามปมกังขา“วัคซีนโควิด-19“ นายกประยุทธ์ตอบทุกข้อ(มีคลิป)

9.บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ลงทุนผลิตวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับบริษัท AstraZeneca และใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต แต่เหตุใดที่วัคซีนที่ประเทศไทยได้รับจึงมีราคาสูง เท่ากับราคาที่บริษัท AstraZeneca ขายให้กับประเทศที่ไม่ได้ร่วมลงทุน

อันนี้ เป็นเรื่องของบริษัท AstraZeneca เป็นผู้กำหนดราคานะครับ เขาจะพิจารณาจากต้นทุนการวิจัย การผลิต และยึดนโยบายราคาเดียวในทุกประเทศ ที่ต้องอยู่ในซัพพลายเชน ย้ำว่าต้องอยู่ในซัพลายเชน ซึ่งผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ของประเทศไทยซึ่งได้รับประโยชน์มากอยู่แล้วในการได้เทคโนโลยีการผลิตที่จะมีอยู่ในประเทศไทยไปตลอด

10.เมื่อผลิตวัคซีนโควิด-19 แล้ว สิทธิบัตรวัคซีนจะเป็นของบริษัทเอกชนทั้งหมดหรือไม่ และสัญญาร่วมทุนกำหนดให้บริษัทเอกชนพิจารณาถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสิทธิบัตรวัคซีน ให้กับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์หรือ องค์การเภสัชกรรม เพื่อนำมาผลิตในราคาถูกให้กับคนไทยทั่วประเทศหรือไม่ พร้อมตั้งคำถามว่าหากสิทธิบัตรเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนเป็นสิทธิของบริษัทเอกชนเท่านั้น การร่วมทุนจะเป็นการสูญเปล่างบประมาณหรือไม่

คำตอบสิทธิบัตรเป็นของ AstraZeneca ทั้งหมด เราซื้อมาจากเขา ส่วนเทคโนโลยีที่ได้มา จะเป็นคนนำความรู้มาพัฒนาผลิตเป็นวัคซีนของเราเองในประเทศ เราต้องมาดำเนินการเอง และพัฒนาวัคซีนอื่น ๆ ไปด้วยในอนาคต มันก็เป็นเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีวัคซีน

11.หลายคนกังวลต่อผลข้างเคียงในการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือไม่

ผลข้างเคียงจากวัคซีนเกิดขึ้นได้ทุกวัคซีนโควิด-19 การพิจารณาอย่างรอบคอบมากที่สุดเป็นเหตุผลหนึ่ง หรือ ความปลอดภัยจากการทดลองวัคซีน ทั้งในสัตว์ และระยะที่3ในมนุษย์ รวมถึงหน่วยงานด้านความปลอดภัย เช่น อย. กรมวิทยาศาสตร์ และกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ตามมาตรฐานการให้วัคซีนที่ดี

12.รัฐบาลมีการกีดกันไม่ให้บริษัทเอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนหรือไม่

ผมและรัฐบาลไม่ได้กีดกัน รัฐบาลโดย อย.ในฐานะผู้รับผิดชอบยินดีให้บริษัทมาขอขึ้นทะเบียน โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปัจจุบันมีผู้มายื่นคำขอขึ้นทะเบียนแล้ว 3 ราย และได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว 1 ราย คือ บริษัท AstraZeneca ประเทศไทย ที่เหลือก็ยื่นมาสิครับ ถ้าเข้ากติกาและหลักเกณฑ์ที่ผมกล่าวไปบ้างแล้ว ก็จะได้รับการขึ้นทะเบียนทั้งหมดในระยะต่อไป

13.ความจำเป็นในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ต้องฉีดทุกคนหรือไม่

การฉีดวัคซีนโควิด-19 ต้องกระตุ้นคนคนนั้นให้เกิดการสร้างภูมิต้านทานได้หรือไม่ 95 % บางที 100 % ด้วยซ้ำเกือบทุกวัคซีน  แต่แค่นี้ผมคิดว่าไม่พอ ทางการแพทย์ก็ว่าไม่พอ เพราะการมีภูมิต้านทานก็ใช่ว่าจะป้องกันโรคได้ หลักการวัคซีนเหมือนกัน เช่น การทดลองฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ ฉีดแล้วต้องติดตามผลอย่างน้อย 1 ปี เพื่อดูผลสุดท้ายว่าสามารถป้องกันได้จริง ๆ แต่วันนี้เรารอไม่ได้ เพราะมีการระบาดกันเยอะมาก มีคนตายทั่วโลกเป็นล้านคน เพราะฉะนั้นเราจึงมีช่องไว้ว่าในกรณีที่มีการระบาดเยอะมาก ๆ เราเรียกว่าการอนุมัติแบบฉุกเฉิน ฉีดไปก่อนแล้วต้องเก็บข้อมูลไปเรื่อย ๆ หากมีปัญหาก็แก้ไขไป

วัคซีนที่ออกมาทั้งหมดนี้ ผมจะพูดให้ชัดเลยว่า ผลยังไม่สามารถบอกได้ว่าป้องกันการติดเชื้อได้หรือไม่ เพราะต้องรอให้ครบ 1 ปี เพียงแต่ตอนนี้เราผลเบื้องต้นว่า อย่างน้อยผลข้างเคียงฤทธิ์ไม่เยอะ ยอมรับได้ เราคุ้นวัคซีนไข้หวัดใหญ่  เรามีข้อมูลอยู่ฉีดไปล้านคน แต่มีคนตายเพียง 1.1 คน เราไม่อยากให้มีใครตายสักคน ขอให้เข้าใจด้วย  ถ้าเราดูข้อมูลปัจจุบันของวัคซีนโควิด-19 ถ้านับเป็นล้านคน จะตาย 11 คน นี่คือสถิติ ซึ่งอาจจะถือว่ายอมรับได้ในทางการแพทย์ ถ้าคุณฉีดวัคซีนโอกาสที่คุณจะติดเชื้อมันก็มี แต่ถ้าเป็นจะไม่รุนแรง โอกาสที่จะป่วย หรืออัตราการตายน้อยกว่าคนที่ฉีดวัคซีน

แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังบอกไม่ได้ คือฉีดไปแล้วจะป้องกันการแพร่เชื้อหรือติดโรคได้หรือเปล่า อันนี้ยังบอกไม่ได้ ข้อมูลยังไม่พอ  ทุกอย่างต้องผ่านการตรวจสอบ ประเมิน ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญมาหมดแล้ว วัคซีน Pfizer Moderna ผล 95% AstraZeneca ผล 90% ซิโนแว็ค ผล70% ถ้าอย่างนั้นซิโนแว็คผมก็ไม่อยากฉีด ไม่ใช่นะครับ ทางแพทย์ก็ถือว่าเท่ากัน เพราะเราถือมาตรฐานเกิน 50% องค์การอนามัยโลกเป็นคนกำหนดขึ้นมา แล้ววัคซีนไข้หวัดที่คุณฉีดอยู่ ก็ได้ผล 50% เอง ก็ต้องเข้าใจข้อเท็จจริง ไม่งั้นกังวลกันหมด

ตอนนี้เราจะได้วัคซีนจากจีนมา อาจจะได้ผลสัก70% แต่ผมยืนยันว่าไม่ได้แตกต่างกัน เกิน50% เป็นที่ยอมรับได้อยู่แล้ว แต่จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ขึ้นมาการแพร่ระบาดจะลดลง

14.กลุ่มไหนควรได้รับวัคซีนโควิด-19 ก่อนหลัง

เราต้องดูตามปริมาณวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับมา จากการสั่งจองมา เขาทยอยมา แม้บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ก็ต้องผลิตทยอยออกมาเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เราจองไปทางโน้น 26 ล้านโด๊ส บวกกับ 35 ล้านโด๊ส มันก็อาจจะมาจากการผลิตในประเทศด้วย และต่างประเทศด้วย

ส่วนที่ฉีดก่อนมี 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 บุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มที่ 2 คนที่มีโรคร่วมเบาหวาน ความดัน กลุ่มที่ 3 ผู้สูงวัย โดยเฉพาะมีโรคประจำตัวร่วมด้วย และดูว่ามีความเสี่ยงในเรื่องพื้นที่ เช่น สมุทรสาคร เราต้องครอบคลุมไปถึงเรื่องแรงงานและประชาชนในพื้นที่ด้วย ต้องพิจารณาวัคซีนให้เหมาะสม อันนี้เป็นแผนขั้นต้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับรับวัคซีน สถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน เช่น จังหวัดท่องเที่ยวจำเป็นหรือไม่ เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย ทุกคนต้องการหมด

แต่มีข้อจำกัดในการผลิตทั้งโลก มีผู้ผลิตไม่ถึง 10 บริษัท ผลิตมาปริมาณเป็นปีกว่าจะฉีดครบทั้งโลก ต้องคิดใคร่ครวญให้ดีว่าจะเชื่อใคร แม้ประเทศเราอาจจะติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ก็ถือว่าน้อยไม่มากเมื่อเทียบกับหลายประเทศด้วยกัน เมื่อเรามีวัคซีนป้องกันก็ไม่แน่จะป้องกันได้100% มันก็เป็นทั้งโลก ผมเชื่อว่าวัคซีนเป็นความหวัง  ผมเชื่อกว่าวัคซีนจะผลิตและฉีดให้คนทั้งโลกได้ผมเชื่อว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี   

นอกจากวัคซีนมาตรการสาธารณสุขผมก็เน้นย้ำเสมอมา ขอให้ประชาชนสวมหน้ากาก เจ้าหน้าที่ผู้ประกอบการ ต้องร่วมรับผิดชอบ การเว้นระยะห่างทางสังคม ต้องขอความร่วมมืออย่าไปในพื้นที่เสี่ยงสูง ขอความร่วมมือลงทะเบียนหมอชนะ ไทยชนะ จะได้ติดตามตัวได้รับผิดชอบทางสังคม อันนี้ก็เป็นวีคซีนอีกประเภทที่ทุกคนทำได้เอง นอกจากรอวัคซีนที่จะนำมาผลิตที่ประเทศของเรา และนำเข้ามาจากประเทศอื่นๆ

ขอให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขที่ได้กำหนดไปแล้ว ไม่มีใครอยากทำให้ท่านลำบาก เดือดร้อน แต่เมื่อมีสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิตประชาชน ต้องร่วมมือกัน ไม่งั้นไปไม่ได้ทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สถาบันวัคซีนฯ แจงเหตุไม่จองวัคซีนโควิดผ่าน"โคแวกซ์"

‘ท่องเที่ยว’ขอวัคซีนโควิด 5 ล้านโดส

วัคซีนโควิด-19 "หมอยง" ไขข้อสงสัยควรฉีด-ไม่ฉีดวัคซีนยี่ห้ออะไรดีที่สุด

ซีอีโอไมเนอร์ ร้อง"นายกประยุทธ์"ชง 4แนวทางบริหารวัคซีนโควิดต่อธุรกิจท่องเที่ยว

สยามไบโอไซเอนซ์ ฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 อาเซียน