หมอธีระชำแหละสรรพคุณวัคซีนโควิด-19 แต่ละชนิด

04 มี.ค. 2564 | 01:30 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2564 | 08:30 น.

หมอธีระชำแหละสรรพคุณวัคซีนโควิด-19 แต่ละชนิด ชี้ควรขวนขวายทำความเข้าใจก่อนฉีด

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า จากข้อมูลปัจจุบัน เราทราบได้ว่ามีวัคซีนโควิด-19 หลายชนิดที่ออกมาให้ใช้กันทั่วโลก

              สำหรับวัคซีนที่สนใจกันมากๆ นั้น ขอแบ่งให้เข้าใจง่ายๆ ว่ามี 3 ประเภทหลัก คือ

              1. วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีดั้งเดิม คือเอาไวรัสทั้งตัวมาทำให้ตาย แล้วนำมาใช้เป็นวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เช่น Sinovac ของจีน

              2. วัคซีนที่เป็นเทคโนโลยีกลางเก่ากลางใหม่ ได้แก่ การเอาชิ้นส่วนเปลือกนอกของไวรัสหรือสร้างเลียนแบบขึ้นมา เช่น Novavax ของอเมริกา และการใช้เชื้ออื่นที่ดัดแปลงให้ไม่มีฤทธิ์ก่อโรค เพื่อช่วยนำพาสารพันธุกรรมบางส่วนของไวรัสโควิดเข้าไปในร่างกายเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เช่น Astrazeneca/Oxford ของสหราชอาณาจักร Sputnik-V ของรัสเซีย และ Johnson&Johnson ของอเมริกา ซึ่งทั้งสามตัวล้วนใช้ Adenovirus ซึ่งมีทั้งเหมือนและต่างชนิดกันไป

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์

              3. วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ซึ่งไม่เคยใช้มาก่อนในโรคอื่นๆ คือ mRNA vaccine เช่น Pfizer/Biontech และ Moderna ของอเมริกา หรือแม้แต่วัคซีนตัวหนึ่งที่จุฬาฯ กำลังวิจัยเช่นกัน

สรุปมาข้างต้น จะได้เข้าใจในหลักการ...

              ส่วนเรื่องสรรพคุณของวัคซีนโควิด-19 นั้น แตกต่างกันไปในแต่ละชนิด ไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรขวนขวายหาความรู้และทำความเข้าใจให้ถ่องแท้  เพราะหากเข้าใจผิด คิดว่ามีวัคซีน แล้วไปฉีดมาโดยไม่รู้ว่าสรรพคุณของตัวนั้นๆ เป็นเช่นไร มั่นใจแค่ไหน ก็อาจหลงนึกว่าจะแข็งแกร่งปลอดภัยไร้โรค แล้วปล่อยปละละเลยการป้องกัน จนเกิดระบาดกันงอมแงมได้

              สรรพคุณของวัคซีนที่พึงปรารถนานั้น อธิบายแบบบ้านๆ มี 3 อย่างหลัก ได้แก่

              1. ฉีดแล้วป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ

              2. ฉีดแล้ว ยังติดเชื้อได้ แต่ป้องกันการป่วย

              3. ฉีดแล้ว ยังติดเชื้อได้ ป่วยได้ แต่ลดความรุนแรงหรือลดโอกาสเสียชีวิต

              ตามหลักการแล้ว เราอยากได้ข้อแรกอย่างมาก แต่ปัจจุบันวัคซีนที่วิจัยพิสูจน์ว่าป้องกันไม่ให้ติดเชื้อนั้น มีเพียง Pfizer/Biontech ป้องกันได้ 75-89.4%, Moderna 67% และ Johnson&Johnson 74% ส่วน Astrazeneca นั้นหากฉีดขนาดปกติ จะป้องกันได้เพียง 2%

ในขณะข้อสองคือ ฉีดแล้ว ยังติดเชื้อได้ แต่ป้องกันไม่ให้ป่วยนั้น วัคซีนทั้งหมดที่ออกมานั้นมีสรรพคุณนี้มากน้อยแตกต่างกันไป ที่ได้ผลสูงคือ Pfizer/Biontech, Novavax, Moderna, Sputnik-V ส่วนที่รองลงมาคือ Johnson&Johnson, Astrazeneca และ Sinovac

ส่วนสรรพคุณข้อสามคือ ฉีดแล้ว ติดเชื้อได้ ป่วยได้ แต่ลดความรุนแรงหรือการเสียชีวิตนั้น วัคซีนส่วนใหญ่มีสรรพคุณนี้สูง 90-100% ยกเว้นบางชนิดที่ข้อมูลไม่ได้ประกาศออกมาอย่างละเอียดชัดเจน

              นอกจากนี้สรรพคุณวัคซีนที่ควรสนใจคือ ผลต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่กลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์สหราชอาณาจักร สายพันธุ์แอฟริกาใต้ เป็นต้น ขณะนี้มีวัคซีนไม่กี่ตัวที่มีผลวิจัยว่ายังได้ผล เช่น Pfizer/Biontech, Moderna เป็นต้น แต่ทราบกันว่าตอนนี้แทบทุกตัวก็กำลังทำการวิจัยปรับปรุงวัคซีนของตนให้สามารถจัดการสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้ คงต้องติดตามกันต่อไป

              การเลือกใช้วัคซีนนั้น ต้องดูทั้งสรรพคุณต่างๆ ที่กล่าวมา และชั่งน้ำหนักกับเรื่องความปลอดภัย เช่น การแพ้วัคซีน

              ดังนั้นจึงต้องตัดสินใจให้รอบคอบ ใช้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องเป็นแสงส่องทาง ตรวจสอบให้ดี จะช่วยให้คิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล ไม่ควรเชื่อเพราะลมปากบอกต่อกันมา

            วัคซีน...สำหรับตัวเราและสมาชิกในครอบครัว...ต้องเลือกให้ดี ไม่ใช่อะไรก็ได้ เพราะส่งผลโดยตรงต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของเรา และเมื่อเรามีความรู้เช่นนี้ ก็จะทราบดีว่า การป้องกันตัวยังควรต้องทำไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าสงครามจะจบจริง อย่าเพิ่งหลงระเริงตามกิเลสที่ไม่สมควร

             ด้วยรักต่อทุกคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :