ก่อนหน้านี้ ราวช่วงกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา หลายประเทศในยุโรป อาทิ เดนมาร์ก ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ บางเขตของสวีเดน อิตาลี ฯลฯ ได้ทยอย ระงับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับ อาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
หลายกรณีเป็นอาการผลข้างเคียงทั่วไปที่บริษัทเคยบันทึกไว้แล้วว่าเป็นผลจากการทดลองวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัคร เช่นการมีไข้สูงหรือการปวดศีรษะ ซึ่งมักเกิดขึ้นได้ขณะร่างกายกำลังสร้างภูมิต้านทาน อาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 1 วันหรือมากกว่านั้น
แต่กรณีที่เป็นปัญหาคือการแข็งตัวอย่างผิดปกติของเลือดและการอุดตันของลิ่มเลือดซึ่งแพทย์ระบุว่าไม่ใช่อาการข้างเคียงโดยทั่วไปของการฉีดวัคซีน จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาคำตอบว่าอาการดังกล่าวมีความเกี่ยวโยงกับการฉีดวัคซีนจริงหรือไม่และอย่างไร
ต่อไปนี้เป็น กรณีอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์ ที่เกิดขึ้นกับ ผู้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของ บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ในหลายประเทศยุโรป ซึ่งแต่ละประเทศมีการตัดสินใจดำเนินการในเรื่องนี้แตกต่างกันไป
ฝรั่งเศส
เริ่มการฉีดวัคซีนต้านโควิดของบริษัทแอสตร้าฯให้กับบุคลากรการแพทย์ที่โรงพยาบาลนอร์มังดี ซึ่งเป็นด่านหน้าในวันที่ 6 ก.พ. หลังจากนั้นมีรายงานการพบอาการข้างเคียงระดับ “แรงกว่า” เมื่อเทียบกับอาการข้างเคียงของผู้ที่ฉีดวัคซีนของบริษัทผู้ผลิตรายอื่น เช่น วัคซีนบริษัทไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม อาการที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่คาดหวังได้และมีการระบุในผลการทดลองวัคซีนของบริษัทผู้ผลิตอยู่แล้ว หน่วยงานสาธารณสุขฝรั่งเศสจึงเพียงออกแนวทางปฏิบัติเป็นข้อแนะนำให้กับบรรดาสถานฉีดวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
อิตาลี
อิตาลีระงับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าฯ ล็อตการผลิตรหัส ABV2856 เช่นเดียวกับโรมาเนียที่ระงับการฉีดวัคซีน 4,200 โดสที่มาจากล็อตเดียวกันนี้ อิตาลีระบุว่า จำเป็นต้องระงับการฉีดไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว แม้ยังไม่มีการยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนกับอาการที่ตามมาอย่างรุนแรง เนื่องจากอิตาลีมีผู้เสียชีวิตสองรายหลังเข้ารับวัคซีนดังกล่าว
สวีเดน
กลางเดือนก.พ. ในเขตซอร์มแลนด์ และกาฟเลอบอร์ก ของสวีเดน พบรายงานผู้รับวัคซีนกลุ่มบุคลากรการแพทย์ประมาณ 100-400 รายมีอาการไข้ขึ้นสูงและอาการที่คล้ายไข้ ส่วนใหญ่เป็นอาการเพียงเล็กน้อยและสอดคล้องกับเนื้อหาของรายงานผลการทดลองวัคซีนของบริษัทผู้ผลิตอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามมีการระงับการฉีดวัคซีนเป็นการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัด
เดนมาร์ก
กระทรวงสาธารณสุขเดนมาร์ก ประกาศเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ระงับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า เป็นการชั่วคราว 14 วันขณะรอการตรวจสอบรายงานที่เกิดขึ้น หลังมีรายงานพบการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีนบางราย
ด้านสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) เปิดเผยว่า มีรายงานผู้ที่มีอาการลิ่มเลือดอุดตันจำนวน 22 รายจากจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าทั้งหมดราว 3 ล้านราย ณ วันที่ 9 มี.ค. ขณะที่มีอีก 6 ชาติในยุโรปที่ได้ระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเช่นกัน
ออสเตรีย
ออสเตรียระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าล็อตการผลิต ABV5300 เช่นเดียวกับประเทศเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิธัวเนีย และลักเซ็มเบิร์ก ที่ระงับการฉีดวัคซีนล็อตเดียวกันนี้ โดยทางการออสเตรียได้สั่งระงับการฉีดวัคซีคล็อตดังกล่าวเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเป็น “มาตรการเชิงป้องกันไว้ก่อน” ระหว่างที่มีการสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของผู้รับการฉีดวัคซีนรายหนึ่งและสาเหตุการป่วยของอีกรายหนึ่ง หลังสำนักงานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขแห่งรัฐบาลกลางออสเตรีย (BASG) ได้รับรายงาน 2 กรณีซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในล็อตเดียวกันที่คลินิกประจำเขตซเว็ตเทิล ในจังหวัดโลเวอร์ออสเตรีย
รายงาน กรณีแรกเป็นการเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนของสตรีวัย 49 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากความผิดปกติจากการแข็งตัวของเลือดอย่างรุนแรง ส่วนรายงานอีกฉบับหนึ่งเป็นกรณีการป่วยของสตรีวัย 35 ปี มีอาการลิ่มเลือดอุดตันในปอดหลังเข้ารับการฉีดวัคซีน แต่ต่อมาเธอมีอาการดีขึ้นแล้ว
สตรีทั้ง 2 คนเป็นพยาบาลซึ่งทำงานอยู่ที่คลินิกประจำเขตซเว็ตเทิล
BASG ระบุว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบหลักฐานความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างทั้งสองกรณีกับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ทั้งนี้ BASG อธิบายว่า อาการลิ่มเลือดอุดตันในปอด เป็นกลุ่มของโรคปอดอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งมีสาเหตุจากลิ่มเลือดนั้นเคลื่อนที่ไปพร้อมกับการไหลเวียนของเลือดจนมาอุดกั้นที่ปอด อย่างไรก็ตาม ภาวะลิ่มเลือดอุดตันไม่ใช่ผลข้างเคียงโดยทั่วไปของการฉีดวัคซีน ดังนั้น จึงมีการเดินหน้าสืบสวนในเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนและจำเป็นต้องระงับการใช้วัคซีนที่เหลือของล็อตนี้ทั้งหมดเพื่อเป็นมาตรการเชิงป้องกันไว้ก่อน
เยอรมนี
นายเย็นส์ ชปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขของเยอรมนียืนยันว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้านั้นมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ตัวเขาเองยินดีที่จะฉีดวัคซีนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีรายงานเจ้าหน้าที่การแพทย์บางรายของเยอรมนีปฎิเสธที่จะรับวัคซีนดังกล่าว
ทางแอสตร้าเซนเนก้าว่าอย่างไร
โฆษกของแอสตร้าเซนเนก้า ระบุว่า ยังไม่ได้รับการยืนยันเกี่ยวกับเหตุการณ์ของอาการไม่พึงประสงค์ชนิดรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน และยืนยันว่าวัคซีนทุกล็อตที่ผลิตของบริษัทอยู่ภายใต้การควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด
"ทั้งการทดสอบในห้องทดลองและประสบการณ์การใช้งานจริง บ่งชี้ว่า วัคซีนของเรามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ มีการอนุมัติใช้แล้วอย่างเป็นทางการในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก" โฆษกของแอสตร้าเซนเนก้ากล่าว และระบุว่าบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลในการสืบสวนเรื่องนี้อย่างเต็มที่
คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ให้การอนุมัติการใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยบ่งชี้ว่า มันมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ขึ้นบัญชีวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในฐานะผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินเมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อาการไม่พึงประสงค์ต่างๆที่พบเห็นระหว่างการทดลองนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ และเท่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีรายงานเกี่ยวกับประเด็นลิ่มเลือดอุดตันมาก่อน นอกจากนี้ ในการประเมินด้านความปลอดภัยของคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบเกี่ยวกับวัคซีนของประเทศเยอรมนีซึ่งใช้วัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเช่นกัน มีข้อสรุปจากประชาชนมากกว่า 360,000 คนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าระหว่างต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึง 26 กุมภาพันธ์ พบว่า แม้จะมีอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆนานาหลังการฉีดวัคซีน แต่ก็เป็นอาการที่สอดคล้องกับผลการทดลองทางคลินิกที่เคยมีการระบุเอาไว้
ฝรั่งเศสยันฉีดต่อ เพราะข้อดีมีมากกว่า
นายโอลิวิเยร์ เวอรอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศสได้ประกาศยืนยันเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ว่า ฝรั่งเศสจะดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าต่อไป แม้ว่าบางประเทศในภูมิภาคยุโรปจะตัดสินใจระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าวแล้วเป็นการชั่วคราว หลังมีรายงานพบการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีนบางราย
"ขณะนี้ ทั้งยุโรป ฝรั่งเศส และเยอรมนี ต่างก็เห็นตรงกันว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอจะพิสูจน์ได้ว่าการฉีดวัคซีนนี้มีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ" นายเวอรองกล่าว ขณะเดียวกันสำนักงานยาของฝรั่งเศสนั้นเห็นว่ายังไม่มีเหตุผลใดๆ ให้สั่งระงับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับข้อมูลจากสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA)
"ประโยชน์ของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้านั้นมีมากกว่าความเสี่ยง ทางกระทรวงฯ จะมีการตรวจสอบตามระเบียบในทุกกรณีที่มีรายงานว่าเป็นผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน โดยแต่ละกรณีจะได้รับการวิเคราะห์เพื่อสืบหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนจริงหรือไม่ และในขณะนี้ยังไม่พบกรณีผลข้างเคียงร้ายแรงอย่างเป็นทางการเลย" นายเวอรองกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: