ผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโด ระบุว่า กว่า 30 จาก 47 จังหวัดของ ญี่ปุ่น วางแผนเริ่ม ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ผู้สูงอายุ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ขณะที่วัคซีนล็อตแรกน่าจะมีจำนวนจำกัดเมื่อเริ่มฉีดวัคซีนในเดือนเมษายน
ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจระหว่างวันที่ 8-12 มี.ค. ระบุว่า อีก 12 จังหวัดยังไม่ได้ตัดสินใจ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม หรือจะประกาศแผนการในภายหลัง ส่วนจังหวัดที่เหลือจะเริ่มฉีดวัคซีนในพื้นที่ห่างไกลและบนเกาะก่อน เนื่องจากหน่วยงานท้องถิ่นยังไม่สามารถหาวิธีที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากจำนวนวัคซีนมีจำกัด
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ 4.8 ล้านคน และจะขยายการฉีดวัคซีนให้ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. เป็นต้นไป โดยจะจัดหาวัคซีนให้ประชากรกลุ่มนี้ที่มีอยู่ราว 36 ล้านคนภายในสิ้นเดือนมิ.ย.
ด้านนายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีของญี่ปุ่นซึ่งกำกับดูแลกระบวนการฉีดวัคซีนในประเทศเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 มี.ค.) ว่า ญี่ปุ่นเตรียมรับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัท ไฟเซอร์ อิงค์ จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 100 ล้านโดส ในเดือนพ.ค.และมิ.ย.นี้ แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการเกิดอาการแพ้รุนแรงจากการฉีดวัคซีนดังกล่าว
โดยนายโคโนะกล่าวในการแถลงข่าวว่า วัคซีนที่จะส่งมาจากโรงงานของไฟเซอร์ในเบลเยียมจำเป็นต้องผ่านการอนุมัติแบบแยกภายใต้การควบคุมการส่งออกของสหภาพยุโรป (อียู) ทั้งนี้ ญี่ปุ่นดำเนินโครงการฉีดวัคซีนค่อนข้างล่าช้าเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่แห่งอื่นๆ เนื่องจากเกิดปัญหาในกระบวนการผลิตที่โรงงานของไฟเซอร์ และการควบคุมการส่งออกของอียู
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ญี่ปุ่นได้เดินหน้าฉีดวัคซีนให้บุคลากรการแพทย์แนวหน้า 4.8 ล้านคนอย่างเต็มกำลัง และกำหนดเริ่มฉีดวัคซีนให้ผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปช่วงกลางเดือนเม.ย. ตามด้วยกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวและผู้ทำงานในสถานดูแลผู้สูงอายุ และกลุ่มประชากรทั่วไป
ขณะนี้ ญี่ปุ่นกำลังเตรียมรับมอบวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ร่วมกับบริษัทบิออนเทคจากเยอรมนี เป็นชุดที่ 5 จำนวน 420,000 โดส ในวันจันทร์ที่ 15 มี.ค.นี้
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า จากการสำรวจล่าสุดของสำนักข่าวเกียวโด นิวส์ (Kyodo News) พบประชากรญี่ปุ่นมีความลังเลต่อการฉีดวัคซีน โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 63.1% ที่ต้องการฉีดวัคซีน นอกนั้น แสดงความกังวลซึ่งเป็นผลมาจากรายงานการพบบุคลากรการแพทย์ในญี่ปุ่นเกิดอาการแพ้รุนแรง (anaphylaxis) หลังฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาการแพ้แอนติเจนรุนแรงที่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลันและอาจอันตรายถึงชีวิต
กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นตรวจพบผู้มีอาการแพ้รุนแรง 37 คนจากกลุ่มผู้ฉีดวัคซีน 181,184 คนทั่วประเทศเมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) แต่ขณะนี้ทั้งหมดมีอาการดีขึ้นแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (10 มี.ค.) นายโคโนะระบุว่า ญี่ปุ่นตรวจพบผู้มีอาการแพ้รุนแรงหลังฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ จำนวนมากกว่าเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยนายโนริฮิสะ ทามูระ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า คณะกรรมการกระทรวงจะตรวจสอบปัญหาดังกล่าวและพยายามระบุว่า อาการแพ้รุนแรงในญี่ปุ่นนั้นร้ายแรงเทียบเท่ากับต่างประเทศหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: