คนไทยถอดใจโตเกียวโอลิมปิก 95.6% เห็นควรเลิก-เลื่อนจัดปีนี้
ชาวต่างชาติกว่า 70% ใน 5 ประเทศคัดค้านการจัด “โตเกียวโอลิมปิก” ที่ญี่ปุ่นในปีนี้ โดย “ไทย” เป็นชาติที่ผู้ตอบคำถามการสำรวจ เห็นว่าควรเลิกหรือเลื่อนจัดโอลิมปิกมากที่สุด
ผลการสำรวจล่าสุด พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม กว่า 70% ใน 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีน เกาหลีใต้ และไทย คิดว่าการแข่งขันกีฬา “โตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก” ควรถูกเลื่อนออกไป หรือยกเลิกไปเลย เนื่องจาก โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดไปทั่วโลก
ผลสำรวจโดยสถาบันวิจัย Japan Press Research Institute เผยว่า อัตราผู้ตอบแบบสอบถามที่เห็นว่าควรเลื่อนหรือยกเลิกจัดการแข่งขันนั้น อยู่ที่ 95.6% ในประเทศไทย ซึ่งสูงที่สุดในบรรดา 5 ประเทศ รองลงมาคือ 94.7% ในเกาหลีใต้, 82.1% ในจีน, 74.4% ในสหรัฐอเมริกา และ 70.6% ในฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่กล่าวว่า การแข่งขันยังควรจะจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้ตามกำหนดการเดิม คือ 25.8% ในฝรั่งเศส, 24.5% ในสหรัฐอเมริกา, 17.9% ในจีน, 4.4% ในไทย และ 3% ในเกาหลีใต้
ทั้งนี้ การแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูร้อน ซึ่งเดิมกำหนดไว้ในปี 2563 ถูกเลื่อนมาเป็นปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกยังไม่คลี่คลายลงมากนัก
สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวเป็นเจ้าภาพ มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 23 ก.ค. ถึง 8 ส.ค. 2564 ส่วนกีฬาโอลิมปิกสำหรับผู้พิการ หรือที่เรียกว่า พาราลิมปิก จะมีขึ้นหลังจากนั้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน
การสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ จัดทำขึ้นผ่านสถาบันวิจัยใน 5 ประเทศ โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามราว 1,000 คนจากแต่ละประเทศในระหว่างเดือนธันวาคม 2563 ถึงเดือนมกราคมปีนี้ (2564)
ในส่วนของการเข้าชมการแข่งขันนั้น ทางคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกของญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 มี.ค.) ว่า ผู้จัดจะไม่เปิดให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าชมการแข่งขัน เป้าหมายก็เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นหมายความว่าชาวต่างชาติที่จองตั๋วเข้าชมการแข่งขันเอาไว้แล้ว สามารถขอคืนเงินได้เต็มมูลค่าจากผู้จัด ทั้งนี้ ข่าวระบุว่า เดิมผู้จัดเตรียมจำหน่ายตั๋วแก่ชาวต่างชาติที่อยู่นอกประเทศญี่ปุ่นเอาไว้ถึง 6.3 แสนใบ
การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังการประชุม 5 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการจัดงานของญี่ปุ่น คณะกรรมการโอลิมปิกสากล คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล รัฐบาลท้องถิ่นมหานครโตเกียว และรัฐบาลญี่ปุ่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นรายงานว่า นับตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปีนี้ มีการจำหน่ายตั๋วชมการแข่งขันไปแล้ว 4.45 ล้านใบ แต่ในจำนวนนี้มีการยกเลิกและยื่นขอเงินคืนแล้วประมาณ 8.1 แสนใบ หรือคิดเป็น 18% ของตั๋วที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด
นอกจากนี้ เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยังมีการจัดทำคู่มือสำหรับนักกีฒาและเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปีนี้ ส่วนหนึ่งของคู่มือระบุว่า นักกีฬานานาชาติที่จะเข้าร่วมการแข่งขันไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ก่อนเข้าร่วมแข่งขัน (การฉีดวัคซีนไม่ใช่เงื่อนไขที่บังคับ) แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ทางผู้จัดสนับสนุนและเห็นว่าจะเป็นการดีหากทีมนักกีฬานานาชาติจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กันให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น เป้าหมายก็เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม ทั้งยังเป็นการให้เกียรติและแสดงความปรารถนาดีต่อชาวญี่ปุ่นอีกด้วย
ทั้งนี้ คู่มือยังระบุว่า ขอให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่นานาชาติทุกคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสำหรับการติดตามตัวซึ่งเป็นแอปฯอย่างเป็นทางการของรัฐบาลญี่ปุ่น และต้องทำไทม์ไลน์บันทึกทุก ๆกิจกรรมที่ทำในญี่ปุ่นช่วง 14 วันแรก นอกจากนี้ คู่มือยังระบุให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่นานาชาติจำกัดการร่วมกิจกรรมสังสรรค์- ชุมนุมให้น้อยที่สุดและมีเท่าที่จำเป็น พวกเขายังถูกขอร้องไม่ให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะในญี่ปุ่นนอกจากจะได้รับอนุญาตก่อนแล้ว นอกจากนี้ ยังต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นตอนรับประทานอาหาร ตอนนอน และเมื่ออยู่ในที่กลางแจ้ง
คู่มือยังแนะให้พวกเขาหลีกเลี่ยงการกอด การจับมือ และการทำไฮไฟฟ์ (การตีมือทักทายหรือแสดงความยินดี) และเมื่ออยู่ในฐานะผู้ชมกีฬา พวกเขาไม่ควรร้องตะโกน ร้องเพลง หรือส่งเสียงเชียร์ การฝ่าฝืนหรือละเมิดกฎกติกาที่ระบุไว้นี้ อาจทำให้นักกีฬาถูกห้ามลงแข่งขัน
ข้อมูลอ้างอิง
Survey: Over 70% in 5 nations against holding Tokyo Olympics
Athletes at the Tokyo Olympics will not need a vaccine to participate, organizers say
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ญี่ปุ่นตัดสินใจเดินหน้า “จัด” กีฬาโอลิมปิกปีนี้ โดยไม่มีชาวต่างชาติเข้าชม
ผลสำรวจชาวญี่ปุ่น 77%ไม่เห็นด้วยเปิดให้ต่างชาติเข้าชมโอลิมปิก
ญี่ปุ่นเดินหน้าเป็นเจ้าภาพจัดโตเกียวโอลิมปิกปีนี้ ชี้ไม่ติดเงื่อนไขฉีดวัคซีนโควิด