สถานทูตจีน เผย"วัคซีนซิโนแวค"ล็อต4 จำนวน5แสนโดสถึงไทยแล้ว

24 เม.ย. 2564 | 02:25 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2564 | 09:50 น.

"สถานทูตจีน"เผย"วัคซีนซิโนแวค"ล็อต4 จำนวน5แสนโดสถึงไทยแล้ว ย้ำ"การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด”จีนจะให้ความช่วยเหลือไทยในการป้องกันและต่อสู้กับโรคโควิด-19 ต่อไป

สถานทูตจีน โพสต์เฟซบุ๊ก สถาน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ระบุว่าเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 วัคซีนซิโนแวคล็อตที่ 4 จำนวน 500,000 โดสมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว 

ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา จีนได้จัดหาวัคซีนโควิด-19 จำนวน 4 ล็อต รวม 2.5 ล้านโดสให้กับไทย  

การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด” ปัจจุบันกำลังการผลิตวัคซีนภายในประเทศของจีนยังไม่เพียงพอต่อความต้องการและยังมีประชากรจีนอีกจำนวนมากที่ยังรอฉีดวัคซีนอยู่ 

ประชาชนจีนและประชาชนไทยมีความผูกพันใกล้ชิดกัน จีนจะให้ความช่วยเหลือไทยในการป้องกันและต่อสู้กับโรคโควิด-19 ต่อไป

สถานทูตจีน เผย\"วัคซีนซิโนแวค\"ล็อต4 จำนวน5แสนโดสถึงไทยแล้ว สำหรับภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีนจีน Sinovac น.พ.ยง ภู่วรวรรณ ระบุว่าทางศูนย์ได้ทำการศึกษาร่วมกับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว สมุทรสาคร การรายงานเบื้องต้นถึงภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 Sinovac สองเข็มห่างกัน 3 สัปดาห์ ตรวจภูมิต้านทานก่อนและหลังการให้วัคซีนพบว่าภูมิต้านทานขึ้นได้ดีมากเป็นที่น่าพอใจ 4 สัปดาห์หลังฉีดเข็มที่สอง ภูมิต้านทานที่ขึ้นได้เท่าเทียมกับภูมิต้านทานที่ตรวจพบจากการติดเชื้อโดยธรรมชาติที่ 4 ถึง 8 สัปดาห์ 
สถานทูตจีน เผย\"วัคซีนซิโนแวค\"ล็อต4 จำนวน5แสนโดสถึงไทยแล้ว ผู้ที่ฉีดวัคซีนตรวจพบภูมิต้านทานต่อสไปรค์โปรตีนหรือหนามแหลมถึงร้อยละ 99.4 ในขณะผู้ที่ติดเชื้อตรวจพบภูมิต้านทานร้อยละ 92.4 ระดับภูมิต้านทานในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนสองเข็มมีค่าเฉลี่ยเรขาคณิตอยู่ที่ 89.5 U/ml ส่วนผู้ที่ติดเชื้อในธรรมชาติจะมีระดับภูมิต้านทานค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 61 U/ml แสดงให้เห็นว่าการได้รับวัคซีนมีภูมิต้านทานเกิดขึ้นได้เท่าเทียมกับภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ

ขณะนี้กำลังศึกษาระยะยาวถึงความคงอยู่ของภูมิต้านทานเพื่อจะคาดการณ์โอกาสที่จะเกิดการติดโรคหรือเป็นซ้ำ เพราะเป็นที่ทราบดีแล้วว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ถึงหายแล้วก็ยังมีโอกาสที่อาจจะติดเชื้อซ้ำได้แต่ความรุนแรงน่าจะน้อยลง

ในระยะยาวจากผลการศึกษานี้จะช่วยบอกว่าจำเป็นที่จะต้องมีการกระตุ้นด้วยวัคซีนเข็มที่สามหรือไม่และถ้าจะต้องกระตุ้นจะกระตุ้นเมื่อใด

ที่มา: สถาน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

ข่าวเกี่ยวข้อง: