แจงเบื้องหลัง เหตุใด "วัคซีนโควิด" ไม่พอ

16 มิ.ย. 2564 | 04:24 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2564 | 04:36 น.

ตอบคำถาม ลงทะเบียนหมอพร้อม ถูกเลื่อนคิว เหตุใดวัคซีนโควิดมีไม่พอ? ทีมสื่อสารรัฐบาล โพสต์แจงเบื้องหลัง รับ อัตราการฉีดและจำนวนวัคซีนที่มี ไม่สมดุลกัน ย้อนเวลาได้ แนะรัฐสื่อสารประชาชนใหม่ พร้อมเปิดแบบจำลอง 2 ทางแก้

จากกรณี ปัญหาความอลหม่าน เรื่องแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาล ที่มีปัญหา ประชาชนจำนวนมาก ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง 7 โรคเรื้อรัง ที่ลงทะเบียน 'หมอพร้อม' และ กลุ่มคนทั่วไป ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ  'ไทยร่วมใจ' ถูกเลื่อนคิวนัดหมายการฉีดวัคซีนออกไป  รอบตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. เป็นต้นไป โดยรัฐบาล ชี้แจงสาเหตุ ว่าเกิดจาก จำนวนวัคซีนที่ได้รับจากการสั่งซื้อ ขณะนี้ มีไม่เพียงพอ สมดุล กับ จำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า แผนการกระจายวัคซีนต่างๆ ยังคงเป็นไปตามแผนที่ ศบค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางไว้ โดยในเดือนมิ.ย.จะกระจายวัคซีนอย่างน้อย 6 ล้านโดส 

ขณะเดียวกัน ได้ปรับแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 โดยเร่งรัด กลุ่มเป้าหมายหลัก  2 กลุ่ม ที่มีปัญหาขัดข้องถูกเลื่อน เปิดศูนย์สถานีบางซื่อ เป็นจุดให้บริการเยียวยาเก็บตก กลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคร้ายที่ตกหล่น จากการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม ในเดือนมิถุนายน ให้ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน คลิกอ่านข่าว 

ล่าสุด  นายวรัชญ์ ครุจิต ฐานะที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Warat Karuchit" ชี้แจงถึงสาเหตุที่แท้จริง กรณีถูกสังคมตั้งคำถาม วัคซีนหายไปไหน และเหตุใดวัคซีนไม่พอ จนนำมาซึ่งผู้ลงทะเบียนจำนวนมากถูกเลื่อนคิว เทนัดหมายว่า ....

วันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา หลายท่านอาจจะโดนเท หลายท่านอาจจะไม่พอใจ ผมเข้าใจและยอมรับความไม่พอใจนั้น (แม่ผมก็คนหนึ่ง) ถ้าผมเป็นคนวงนอก ผมก็คงจะรู้สึกอย่างเดียวกัน ว่าทำอะไรกันอยู่ เล่นอะไรกันอยู่ 
แต่ผมที่อยู่วงกลางๆ แต่ก็เห็นและยืนยันว่า มีการพยายามประสานงานกันกับทุกๆฝ่าย ตลอดทั้งวัน ว่าควรจะต้องทำอย่างไร ควรจะสื่อสารอย่างไร

บางคนบอกว่า ปัญหามันง่ายๆ แค่พูดความจริง ว่าวัคซีนไม่พอ 
ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายอย่างนั้นครับ แม้ว่าสิ่งที่จะพูดออกไปนั้นเป็นความจริงทั้งหมดก็ตาม แต่มันซับซ้อนกว่านั้น

ตอนแรกเราเปิดให้จองหมอพร้อมสำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง ตามจำนวนวัคซีนที่เราควรจะได้รับทีละรอบในเดือน มิย.   แต่ต่อมาเกิดการระบาดในกรุงเทพ พร้อมกับที่ผู้ลงทะเบียนผู้สูงอายุน้อย ช่วงแรกทั่วประเทศแค่ล้านกว่า ศบค. โดยนายก จึงปรับแผน เปิดให้ประชาชนทั่วไปมาฉีดด้วย และนายกเองมีหลักการว่า "ทุกจังหวัดต้องได้ฉีดพร้อมกัน" จึงต้องมีการจัดสรรให้ทุกจังหวัดได้ทั้งหมด 

แต่พอกระแสการฉีดวัคซีนมาแรง คนมาลงทะเบียนหมอพร้อมพุ่งพรวด ทะลุ 8 ล้านคน ในขณะที่วัคซีน AZ จะมาแค่ 6 ล้านในเดือนมิย. Sinovac ก็อาจจะได้อีกแค่ล้านสองล้าน นั่นคือเหตุผลที่ "หมอพร้อม" ต้องชะลอไป ไม่ใช่เป็นปัญหาที่ระบบ และให้แต่ละจังหวัดเปิดระบบเพื่อบริหารจัดการเองตามจำนวนที่จะได้รับจัดสรร

ซึ่งล็อตแรกที่ได้ AZ มา 1.8 ล้าน เพื่อเริ่มวันที่ 7 มิย. ก็กระจายไปหมดทุกจังหวัดลดหลั่นตามสัดส่วนกันไป ซึ่งแต่ละจังหวัด ก็ไปจัดสรรกันเองว่าใครควรได้เท่าไหร่ ซึ่งส่วนกลางก็แจ้งคร่าวๆว่าจะได้มาอีกรอบในอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งหวังว่าจะได้วันที่ 14 มิย. ซึ่งวันแรกๆก็ไม่มีปัญหา แต่พอวัคซีนเริ่มขาดมือ รอบใหม่ที่คาดว่าจะมาก็ยังไม่มา เลทไปแม้แต่วันสองวันก็มีผล ทำให้ รพ.ต่างๆที่ไม่มีวัคซีนในมือแล้ว ก็ต้องประกาศเลื่อน เพราะส่วนกลางก็สัญญาไม่ได้แน่นอนเหมือนกันว่าจะมาเมื่อไหร่ 

เนี่ยครับความจริง 
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ หรือติดตามข่าว ก็คงทราบว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การไม่ได้พูดความจริง ปัญหาหลักมีอย่างเดียว คือ วัคซีนมาไม่ทันการฉีด 

ผมเห็นบางคนเอาไปล้อเลียน หาว่าการบอกว่าการฉีดเร็วไปกลายเป็นข้อเสีย มันก็ไม่เชิงเป็นข้อเสียหรอกครับ แต่เป็นความจริงที่ว่า พอกะจำนวนการฉีดต่อวัน โดยไม่สมดุลกับวัคซีนที่มี เน้นฉีดให้เร็วที่สุด ในขณะที่มีวัคซีนจำกัด มันก็แน่นอนว่าวัคซีนจะหมดก่อนจะได้รอบใหม่มา 

จริงๆถ้าย้อนเวลากลับไป ทางแก้ง่ายๆมีอยู่ 2 ทางครับ 

1. ไม่ต้องปรับแผนอะไรเลย ตามแผนเดิมผู้สูงอายุ + กลุ่มเสี่ยง ฉีดเดือน มิย. และ กค. เหมือนประเทศอื่นๆ คนทั่วไปค่อยเริ่มฉีดเดือน ส.ค. (และตอนแรก บางจังหวัดกว่าจะได้ฉีดก็ สค. เลยเหมือนกัน) ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องวัคซีนขาดเลย ... แต่ผลเสียก็คือ มีผลต่อการควบคุมโรค โดยเฉพาะในกทม. และพื้นที่ระบาด ในอนาคตด้วย และสุดท้ายก็โดนคนทั่วไปด่าอยู่ดี ว่าเมื่อไหร่จะได้ฉีด ... แผนนี้ เอาไหมครับ?
 
2. รอวัคซีนเดือน มิย. มาจนครบ 6 ล้านโดสก่อน ซึ่งอาจจะเป็นปลายเดือน แล้วค่อยแจกจ่ายไป เริ่มฉีด 7 ก.ค. เดี๋ยว 10 ล้านโดสของเดือนหน้าก็จะมาเสริม ทำให้ไม่ต้องมีสะดุดหรือเลื่อน ... แต่ผลเสียคือ เราก็จะได้ฉีดช้าไป 1  เดือน ซึ่งก็จะมีผลเรื่องการควบคุมโรคและโดนด่าเหมือนกัน ... แผนนี้ เอาไหมครับ? 

ทางเลือกแบบที่เราปรับแผน และทยอยฉีดเมื่อได้วัคซีนมา จึงเป็นทางเลือกที่ compromise และน่าจะเกิดประโยชน์สูงสุด บนสภาพความเป็นจริงที่วัคซีนที่เรามีจำกัด และเราควบคุมวันเวลาและจำนวนวัคซีนที่จะได้มาไม่ได้ แม้ว่าเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างแน่ว่าจะโดนด่า ก็ต้องเลือก 

ถ้าภาษาความเสี่ยงของวัคซีนก็ต้องบอกว่า "Benefits outweigh the risks" (ประโยชน์คุ้มที่จะเสี่ยง) ถ้ามาทันแต่ละช่วงก็ดี ถ้าขาดช่วงก็ถูกด่า แต่ถึงจะสะดุด หรือถูกเลื่อน แต่ก็ยังมีจำนวนผู้ฉีดวัคซีนได้เร็วกว่าวิธีอื่นๆ ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม 

ถ้าถามผม ในแง่การสื่อสาร ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็อาจจะมีหลายอย่างที่จะสื่อสารใหม่ แต่สิ่งที่ผมอยากจะทำใหม่มากที่สุด น่าจะเป็นการสื่อสารให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การฉีดวัคซีนที่เริ่มต้นวันที่ 7 มิย. นี้ จะเป็นการฉีดแบบทยอยฉีดไปตามวัคซีนที่มีให้เร็วที่สุด ซึ่งอาจจะเกิดการไม่ต่อเนื่อง คิวที่มีนั้นขึ้นอยู่กับการได้รับวัคซีน 

ซึ่งอาจเป็นเพราะเราหวังว่าจะได้รับวัคซีนตรงตามเวลา หรือจะเกรงใจ หรืออะไรก็ตาม รวมถึงการไม่ได้สื่อสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มากพอถึงการ set expectation ให้ตรงกัน ว่าสถานการณ์จริงๆเป็นอย่างไร
ซึ่งเรื่องนี้ ในฐานะทีมสื่อสาร ผมก็ต้องขออภัยท่านเช่นกันครับ 

แต่ไม่ได้เกิดจากการไม่ได้พูดความจริง หรือการไม่พยายามประสานงานกันแน่นอนครับ ทุกคนต่างพยายามทำงานและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ แทบไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย และก็ต้องขอบคุณคอมเมนต์ของหลายๆท่านที่เข้าใจ และส่งกำลังใจ แม้จะเกิดผลกระทบกับบางท่านด้วยนะครับ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง