“ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว” พื้นที่สีแดงเข้ม คนแห่ตุนสินค้า “แม็คโคร”  

หลังจากที่ พ.ญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงมติศบค.ชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ โดยมีการประกาศ "เคอร์ฟิว" และมาตรการ "ล็อกดาวน์" งดเดินทาง ห้ามออกจากบ้านในเวลาที่กำหนด ในช่วงเวลา 21.00-04.00 น. ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 โดยเริ่มมาตรการ 12 ก.ค. นี้เป็นต้นไป

พร้อมให้มีการเริ่มตั้งด่านตรวจวันที่ 10 ก.ค. เป็นต้นไป ในใช้กับพื้นควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ไม่ได้รวมทั้งประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา

โดยกำหนดการปฏิบัติในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำกัดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมของบุคคลให้มากที่สุด  เน้นการทำงานที่บ้าน (WFH) ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง เปิดทำการ 20.00-04.00 น.

ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคารและสถาบันการเงิน ร้ายขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน ทั้งนี้เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.

รวมทั้งห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น และห้ามออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 21.00-04.00 น. นั้น

จากการลงพื้นที่สำรวจ “แม็คโคร” สาขาจรัญสนิทวงศ์ พบว่า ประชาชนจำนวนมากเริ่มทยอยออกซื้อสินค้าเพื่อกักตุน ทำให้สินค้าหลายรายการหมดจากเชลฟ์จำหน่าย

 ขณะที่ “พนักงาน” ระบุว่า ยังมีสินค้าในสต็อกเพียงพอ และเตรียมนำเข้ามาจัดวางในรอบถัดไป

ทั้งนี้ นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากการประกาศมาตรการคุมเข้มของรัฐบาลแม็คโครได้เตรียมบริหารสต๊อกสินค้าให้เพียงพอความต้องการอยู่แล้ว

แม็คโครได้วางมาตรการตั้งรับในหลายด้าน ทั้งการทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อวางแผนการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้เพียงพอกับความต้องการ การบริหารจัดการขนส่งสินค้าภายใต้มาตรการคุมเข้มของภาครัฐ

“แม็คโครเน้นการบริหารสต็อกสินค้า เพิ่มจำนวนพนักงานและความถี่ในการเติมชั้นวางสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย ร้านค้าปลีกเล็กๆ ในชุมชน ร้านอาหาร ที่ต้องการเตรียมสินค้าสำหรับการจำหน่ายให้คนในชุมชนช่วงหยุดเชื้อเพื่อชาติ”

ขณะเดียวกันแม็คโคร ก็เน้นมาตรการเข้มงวดในการป้องกันเชื้อโควิด-19 โดยนับจำนวนและจำกัดผู้ใช้บริการภายในสาขา จัดทีมรักษาระยะห่าง (social distancing scouts) คอยประกาศย้ำเตือนลูกค้า โดยเฉพาะในจุดที่มีความแน่นอย่างจุดชำระเงิน

แผนกเนื้อสัตว์ บริการแจกถุงมือให้กับลูกค้าเพื่อลดการสัมผัสโดยตรง และการรณรงค์ให้ใช้การชำระเงินแบบ Cashless payment ลดการสัมผัสเงินสด รวมทั้งจัดพื้นที่บริเวณด้านหน้า เพื่อให้ลูกค้ารอคอยแบบเว้นระยะห่างด้วย