ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สโมสรนักศึกษาแพทย์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์ เรื่อง การจัดการวัคนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทย
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้มีความรุนแรงมากขึ้นจากเชื้อไวรัสSARS-CoV-2 กลายพันธุ์ มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ และผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการสาธารณสุข การศึกษา เศรษฐกิจ ไปจนถึงการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป แม้ว่าจะได้มีการเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไปแล้วในกลุ่มบุคลากรการแพทย์ และกำลังมีการกระจายให้ประชาชนทั่วไปอยู่ในขณะนี้นั้น กลับพบว่าวัคซีนเดิมที่นำมาใช้เป็นวัคซีนหลักตามนโยบายของรัฐ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 การบริหารจัดการกระจายวัคซีนที่ล่าช้า อีกทั้งการให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนที่ยังคงมีข้อสงสัยมากมายจากประชาชนถึงความถูกต้องและโปร่งใส ส่งผล อย่างยิ่งต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในการทำงานของรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องในวิกฤติครั้งนี้
สโมสรนักศึกษาแพทย์ศิริราช มีความเห็นว่านอกจากมาตรการป้องกันส่วนบุคคลแล้ว ส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมการระบาด และการป้องกันการระบาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต คือการมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพซึ่งประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ สโมสรนักศึกษาแพทย์ริราช
จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาล คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังนี้
1. เร่งจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์มาใช้เป็นวัคซีนหลัก โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และความปลอดภัย โดยวัคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดในขณะนี้คือวัคซีนกลุ่ม mRNA (Messenger RNA vaccines) ซึ่งมีหลักฐานจากผลการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือจากหลากหลายสถาบัน และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ได้สูง
2. เร่งจัดให้มีการกระจายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพให้ทั่วถึงประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งวัคซีนหลักแก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และวัคนเข็มกระตุ้น (Booster dose) แก่ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว โดยเริ่มจากกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเสียชีวิตก่อนเป็นอันดับแรกเช่น กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่ปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว และกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นต้น รวมไปถึงประชาชนกลุ่มเปราะบางที่เสี่ยงต่อการระบาดเช่น ประชาชนในชุมชนแออัด คนงานก่อสร้าง สัปเหร่อหรือผู้ประกอบอาชีพในงานบริการ เพื่อให้ระบบการสาธารณสุขของประเทศยังสามารถดินหน้าต่อไปได้และป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
3. เปิดเผยรายละเอียดขั้นตอนกระบวนการพิจรณาเลือกวัคชีน การศึกษาวิจัย สัญญาการจัดซื้อ การจัดการวัคซีนที่ได้รับบริจาคจากต่างชาติ และแผนการกระจายวัคซีน ทั้งที่ได้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้เกิดความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าวัคนนั้นมีประสิทธิภาพ ผ่านขั้นตอนการพิจารณาโดยปราศจากการทุจริต และถูกต้องตามหลักจริยธรรม