วันที่ 15 ก.ค.2564 นายแพทยพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ในฐานะ 1 ใน 7 คณะกรรมการวิชาการตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ กล่าวตอนหนึ่งในการเสวนาวัคซีนโควิด19สำหรับสื่อมวลชน เตือนสติสังคมในการเสพข้อมูลวัคซีนโควิดในโซเชียลมีเดียว่า
จากมติคณะกรรมการโรคติดต่อได้พิจารณาว่า จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เมื่อวัคซีนมีแค่นี้ เราก็ต้องใช้ประโยชน์ให้ดีที่สุด โดยต้องใช้ซิโนแวคบวกกับแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อควบคุมเดลตาให้ได้ ด้วยการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการป้องกัน
คือ การฉีดซิโนแวค 1 เข็ม รออีก 3-4 สัปดาห์ฉีดตามด้วยแอสตร้าฯ เป็นเข็มที่ 2 ส่วนใครเคยฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ให้รอสักประมาณ 1 เดือน แล้วค่อยไปกระตุ้นเข็ม 3 แต่ผู้รอกระตุ้นเข็ม 3 ขอให้ใจเย็นๆ เราจะให้กับเจ้าหน้าที่ บุคลากรด่านหน้าที่อยู่กับคนไข้
เพื่อให้พวกเขาฉีดก่อนป้องกันไม่ให้เขาป่วยรุนแรง จนเสียชีวิต หากเจ้าหน้าที่ป่วย จะไม่มีคนมาดูแล เจ้าหน้าที่ทั้งหมดมี 7 แสนคน เลือกกลุ่มด่านหน้าก็ไม่ทั้งหมด ดังนั้น กลุ่มอื่นๆ ขอให้รอก่อน
“ผมไม่ชอบเลย คือ สื่อไปตัดคำให้คนเข้าใจผิด องค์การอนามัยโลกไม่ได้พูดตามที่สื่อบางสื่อไปตัดถ้อยคำ ทำแบบนี้บาปกรรมมาก ผมไม่ได้แช่งท่านนะ แต่ทำแบบนี้บาปมาก ทำให้วุ่นวายหมด ไปตัดทอนจนสับสน ขอให้หยุด สิ่งที่องค์การอนามัยโลกที่เจนีวา บอกคือ สลับวัคซีนทำได้ หากมีผลงานวิจัยมารองรับ และเป็นหน่วยงานด้านสาธารณสุข ซึ่งผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวิชาการตามพ.ร.บ.โรคติตต่อฯ ได้มีการพิจารณาเรื่องนี้บนผลการศึกษารองรับ และขอให้สื่อนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริงทั้งหมด” นพ.พรเทพ กล่าว
ศ.นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า การฉีดวัคซีนอะไรก็ตาม ขอให้ฟังจากกรมควบคุมโรค อย่าไปเชื่อที่ส่งต่อกันในโซเชียลมีเดีย ที่แฝงไปด้วยความไม่รู้จริง แฝงด้วยผลประโยชน์ด้านธุรกิจ และการเมือง แม้เป็นแพทย์ในโซเชียลมีเดีย ก็ให้ดูด้วยว่าแพทย์ท่านนั้นเชี่ยวชาญด้านไหน เพราะแพทย์มีหลายประเภท ให้เลือกที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้จริงๆ
ส่วนตัวแพทย์เอง ขอร้อง ให้ทำตามพระราชปณิธานสมเด็จพระราชบิดา ที่ให้ไว้ ก็ขอให้ทรงธรรมะแห่งวิชาชีพไว้ให้บริสุทธิ์ ลาภยศสรรเสริญจะตกแก่ท่านเอง เราถูกสอนมาแบบนั้น