นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ต้อนรับ บมจ. ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “IIG” ในวันที่ 6 สิงหาคม 2563
IIG และบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีให้แก่ภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยเป็นที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และให้เช่าใช้ซอฟต์แวร์ Salesforce และ 2) ระบบการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม (ERP) และเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ Oracle
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังดำเนินธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากรในส่วนงานสารสนเทศ และธุรกิจที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ การสร้างและบริหารประสบการณ์ และการตลาดดิจิทัล โดยกลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่มสถาบันการเงินและธนาคาร กลุ่มธุรกิจประกันชีวิต กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธุรกิจการแพทย์ และกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า
IIG มีทุนชำระแล้ว 50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 75 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 25 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 29–31 กรกฎาคม 2563 โดยแบ่งเป็นเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 18.77 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหารและพนักงาน ของบริษัทและบริษัทย่อย 6.23 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 165 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 660 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 12.05 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (ตั้ 1 เมษายน 2562-31 มีนาคม 2563) เท่ากับ 54.79 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.55 บาทต่อหุ้น โดยมี บล. โนมูระ พัฒนสิน เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (IIG) เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาด้านบริการด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีครบวงจรมาแล้วกว่า 28 ปี มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในอุตสาหกรรม บริษัทมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน อีกทั้งบริษัทยังมีคู่ค้าที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะช่วยสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในการพัฒนาและก่อตั้งศูนย์พัฒนาซอฟต์แวร์ (Developing Center) ลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
IIG มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มเมฆะสุวรรณโรจน์ ถือหุ้น 36.51% กลุ่มโพธิรัตน์สมบัติ ถือหุ้น 14.21% และกลุ่มรักอำนวยกิจ ถือหุ้น 13.97% บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.ii.co.th และ www.set.or.th