เปิดชื่อหุ้นเด็ด ช่วงโค้งท้ายปี

03 ก.ย. 2563 | 10:10 น.

บล.เอเซียพลัสคาดหุ้นไทยปีนี้ไม่หลุด 1,300 จุด ด้านบล.ไทยพาณิชย์เชียร์เข้าซื้อเดือนตุลาคม รับข่าววัคซีนต้านโควิด ส่วนบล.ยูโอบี เคย์เฮียน แนะถือเงินสดรอช้อนหุ้นถูก 

แม้ตลาดหุ้นไทยช่วงการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ดัชนีจะผันผวนและดิ่งแรง แต่ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทำให้ใช้เวลาไม่นาน การลงทุนกลับมาอีกครั้ง ดัชนีปรับขึ้นมาอยู่ในระดับปกติได้รวดเร็ว สะท้อนให้เห็นว่า พื้นฐานยังคงแข็งแกร่งและการลงทุนในหุ้นไทยยังเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน หนังสือพิมพ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ได้จัดงานสัมมนา “จับสัญญาณหุ้นไทย หลังโควิด” เพื่อให้นักลงทุนได้รับความรู้การลงทุน และคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ในหัวข้อ “หุ้นเด็ดโค้งท้ายปี”

 

เปิดชื่อหุ้นเด็ด ช่วงโค้งท้ายปี

 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเซีย พลัส จำกัดเปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทย ได้ผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 และจะไม่หลุด 1,300 จุด จากระดับความเสี่ยงที่ผ่านมา ถูกกดลงมามากพอสมควร ทำให้ปัจจุบันนักลงทุนเริ่มกล้ากลับมาลงทุนอีกครั้ง รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจ(จีดีพี)ไทยไตรมาส 2 ที่ติดลบ 12.2% ไม่ได้ตํ่ากว่าที่ประมาณการมากนัก ขณะที่ตัวเลขการบริโภค การลงทุนรัฐและการส่งออก ก็ไม่ได้แย่เกินกว่าสมมติฐาน

เปิดชื่อหุ้นเด็ด ช่วงโค้งท้ายปี

 

ส่วนแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ครึ่งปีหลัง คาดว่าไตรมาส 3 และ 4 จะไตรมาสละ 200,000 ล้านบาท ส่วน EPS ปัจจุบันอยู่ที่ 56.6 บาทต่อหุ้น จากต้นปีอยู่ที่ 97 บาทต่อหุ้น มาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย และมาตรการ Lockdown ได้ผ่อนคลายไปมากแล้ว อีกทั้งการผลิตวัคซีนเริ่มมีพัฒนาการออกมาให้เห็นชัดเจนมากขึ้น กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้ ให้กระจายความเสี่ยงโดยลงทุนในหุ้นไทย 40% ลงทุนกองทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 15% ลงทุนตราสารใหม่ทางเลือก 10% และลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ 25-30%

 

เปิดชื่อหุ้นเด็ด ช่วงโค้งท้ายปี

“สภาพคล่องในสถาบันการเงินไทยยังคงอยู่ในระดับสูงประมาณ 15.5 ล้านล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนไม่กล้านำเงินออกมาอยู่ในความเสี่ยง แต่ปัจจุบันความเสี่ยงเริ่มลดลง ดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับตํ่า และราคาหุ้นยังถูก จึงมีโอกาสที่เงินเงินฝากและเงินออมจะไหลมายังการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ส่วนเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติ มีโอกาสไหลกลับมาลงทุนในประเทศไทยได้ หลังจากไหลออกไปอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เหลือสัดส่วนการถือครองเพียง 26% ถือว่าอยู่ในระดับตํ่ามากแล้ว”

 

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ จำกัดกล่าวว่า หุ้นไทยในช่วงที่เหลือ ยังมีดาวน์ไซด์จากเสถียรภาพของกำไรบจ. โดยบางธุรกิจกำไรลดลงถึง 80% แต่บางธุรกิจลดลง 20% จึงควรเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวเป็นหลัก เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงผลกระทบของเศรษฐกิจและไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง ทั้งนี้ ประเมิน ดัชนีหุ้นไทยยังมีโอกาสลงอยู่ที่ 1,270-1,280 จุด และอัพไซด์ที่ระดับ 1,400 จุด ส่วน EPS ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 58 บาทต่อหุ้น จากปี 2562 อยู่ที่ระดับ 87 บาทต่อหุ้น และปี 2564 อยู่ที่ 76 บาทต่อหุ้น

 

เปิดชื่อหุ้นเด็ด ช่วงโค้งท้ายปี

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ซื้อเข้าพอร์ตในระดับดัชนี 1,300 จุด สัดส่วน 75% แต่หากดัชนีปรับขึ้น 1,400 จุด ให้ลดพอร์ตเหลือ 50% ส่วนที่เหลือให้ถือเป็นเงินสด เพื่อรองรับไตรมาส 4 ปี 2563 ที่อาจเกิดความผันผวนได้ ขณะเดียวกัน จังหวะที่เหมาะกับการเข้าเก็งกำไร คือในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งจะได้รับข่าวดีจากความสำเร็จการผลิต “วัคซีนโควิด” ทั่วโลก แต่หลังเดือนตุลาคมถึงช่วงปีใหม่ ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า คาดดัชนีหุ้นไทยกลางปี 2564 มีโอกาสแตะ 1,430 จุด ส่วนปีนี้คาดว่า จะอยู่ที่ 1,260-1,280 จุด เนื่องจากส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนของตลาดหุ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล(Earning Yield Gap)เริ่มไม่ต่างกันมาก ทำให้ความน่าสนใจของหุ้นลดลง โดยปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกเริ่มปรับตัวสูงขึ้น จากการที่รัฐบาลทั่วโลกมีความจำเป็นต้องนำเงินไปใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมักจะมีการแข็งค่าขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐ 2-3 เดือน

 

เปิดชื่อหุ้นเด็ด ช่วงโค้งท้ายปี

 

ทั้งนี้ แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ให้ถือเงินสดประมาณ 25% เนื่องจากตลาดหุ้นในช่วงนี้ไม่ได้ขึ้นแรงและลงแรงเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งอย่างน้อยหากเกิดความผิดพลาดยังมีเงินสดไว้ซื้อหุ้นในราคาถูกได้ โดยเมื่อดัชนีลดลงมากให้ซื้อจำนวนมาก และดัชนีปรับขึ้นให้ซื้อน้อยลง ส่วนหุ้นกลุ่มที่แนะนำ คือ หุ้นที่เติบโตตามผลประกอบการ ที่มีความน่าสนใจเข้าเก็งกำไร, กลุ่มประกันภัย จากปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่จะไม่ซื้อประกันชีวิต แต่จะซื้อประกันสุขภาพมากขึ้น, หุ้นปลอดภัย และหุ้นเล็กม้ามืด 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หุ้นไทยยังแกร่ง เปิดเทรดเพิ่ม1.4แสนราย

5 หุ้นเด็ด รับอานิสงส์โควิด

30 ก.ย.เส้นตาย พรบ.โอนงบ 8.8 หมื่นล้าน

ลุ้นรัฐออกมาตรการกระตุ้นอสังหา  โบรกมอง" บ้านเกิน 3 ลบ.-คอนโด" ได้ประโยชน์

หน้า 14 ฉบับที่ 3,605 วันที่ 30 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2563