ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (วีไอ ) กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าสำหรับนักลงทุนแล้ว การแต่งตั้ง "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่ถือว่าเป็นประเด็น เพราะไม่ว่าใครจะมาเป็นรมว.คลัง การบริหารเชิงกลยุทธ์ในลักษณะ "ทีมเศรษฐกิจ" ของรัฐบาลไม่มี ต่างคนต่างทำ ด้วยลักษณะโครงสร้างทางการเมือง รัฐธรรมนูญถูกเขียนให้เป็นเช่นนี้ ทำให้ทีมเศรษฐกิจเกิดขึ้นยาก เพราะมาจากหลายพรรคการเมือง
"ผมเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่ รู้สึกเฉย ๆ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรมว.คลัง เพราะการทำงานในลักษณะ" ทีมเศรษฐกิจ"ไม่มี จึงไม่มีอะไรที่เป็นกลยุทธ์ของรัฐบาลที่ชัดเจน คือต่างคนต่างทำหน้าที่ ขับเคลื่อนมาตรการในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ ขอให้มี รมว.คลัง ก็แล้วกัน เพราะหากปล่อยทิ้งนานไปความเสียหายก็จะมากและแรงขึ้น เพราะหลายมาตรการออกมาไม่ได้ ต้องรอ หรือชะงัก อย่างน้อยการมี รมว.คลัง ก็สามารถดันมาตรการออกมา อย่างไรก็ดีนักลงทุนไม่ได้คาดหวัง เพราะยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ อีกทั้งปัญหาใหญ่ขณะนี้ คือสถานการณ์โควิดจะคลี่คลายหรือจบลงเมื่อไรไม่มีใครคาดการณ์ได้ แนวทางมาตรการที่ออกมาจึงทำได้แค่รับมือตามสถานการณ์มากกว่า "
ข่าวเกี่ยวข้อง
โปรดเกล้าฯ "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง
"อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" รมว.คลังคนใหม่ ไม่เซอร์ไพรส์ตลาดหุ้น
ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าการที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่นั้นถือว่า ตลาดหุ้นยอมรับและตอบรับในเชิงบวก เนื่องจากนายอาคมเคยผ่านงานการเมือง เป็นรมว.คมนาคม ( 9 ส.ค. 58 – 10 ก.ค. 62 )และเคยเป็นเลขาธิการสภาพัฒน์ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมหภาคที่มีผลงานพิสูจน์มาแล้ว และเป็นการเข้ามาดำรงตำแหน่งในจังหวะเวลาที่เศรษฐกิจประเทศจำเป็นต้องเร่งรันต่อ อาทิมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการลงทุนในอีอีซี เพราะต้องมีรมว.มาเซ็นลงนาม และจากการว่างเว้นมานาน 1 เดือน เมื่อได้รมว.คลังทำให้สามารถขับเคลื่อนได้ในทันที
"คุณสมบัติที่ตลาดหุ้นยอมรับนอกจากความสามารถ มีผลงานที่พิสูจน์มาแล้ว และไม่เป็นนักการเมืองหรือนักวิชาการจนมากไป สำหรับรมว.อาคม ถือว่าสอบผ่าน และตลาดหุ้นน่าจะตอบรับในเชิงบวก "