AQUA รุกสื่อ หวังดันแชร์โตเท่าตัว
AQUA ควัก 850 ล้าน ขยายลงทุนสื่อ เตรียมเพิ่มเครือข่ายจอแอลอีดีอีก 15-20 จอ พร้อมผุดโครงการเมกกะคอนเน็ก เน้นจอขนาดใหญ่ ในไพร์มแอเรียบวก สนองความต้องการลูกค้า
จากธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด เมื่อปี 2537 วันนี้บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ไม่เพียงย้ายเข้ามาลงทุนในธุรกิจสื่อเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน
นางสาวเรวดี หวานชิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัญชีการเงิน AQUA เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า อความี 4 ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจสื่อป้ายโฆษณา ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท อควา แอด บอร์ดเวย์ มีเดีย จำกัด ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ภายใต้บริษัท ไทย คอนซูมเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด ธุุรกิจพลังงานทดแทนและธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP
ดังนั้น รายได้อควา ในปี 2562 จะเป็นรายได้จากสื่อโฆษณา 57% อสังหาฯ 24% และส่วนแบ่งกำไรจาก EP 19% จากมูลค่ารวม 1,400 ล้านบาท
ปี 2550 AQUA เข้าลงทุนในสื่อป้ายโฆษณา เริ่มจากป้ายนิ่ง และช่วงปี 2555-2556 ป้ายแอลอีดี เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมมากขึ้น จึงจะขยายการลงทุนในตลาดแอลอีดี แต่วิเคราะห์แล้ว การขายจอแอลอีดีต้องมีปริมาณมากพอ ซึ่งต้องใช้เวลาพอควร และรายได้คงไม่พอกับเงินที่จ่ายไปเลย จึงเข้าไปเทคโอเวอร์บริษัท บอร์ดเวย์ มีเดีย จากที่มีป้ายแอลอีดี 20 จอ และปัจจุบันมี 118 จอ โดยเป็นแอลอีดีในกรุงเทพและปริมาณล 57 จอ และต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ 27 จอ ที่เหลือเป็นบริเวณสนามสุวรรณภูมิ ทั้งขาเข้าและขาออกอีก 34 จอ และนับตั้งแต่เริ่มธุรกิจสื่อ รายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 10%
“ช่วงโควิด-19 แอลอีดีเราเหลือปริมาณการใช้ 23% แต่พอไตรมาส 3 ขึ้นมาที่ 50% ถือว่าโตขึ้น 100% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส จากปกติปี 2562 จะอยู่ที่ 70% ช่วงดีๆจะขึ้นไปถึง 94% ไตรมาส 4 น่าจะปรับขึ้นมาที่ 70-75% เฉลี่ยทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 60% ยังไม่เท่ากับปี 2562 เพราะภาพรวมแอลอีดีลดลง 30% แต่ป้ายนิ่งจะลดลง 10-15% เพราะเราก็พยายามช่วยลูกค้าว่าไม่ต้องลง เพราะถ้าจะขึ้นอีก จะมีค่าโปรดักชันส์ จึงให้ใช้ราคาส่วนลดไปก่อน พ้นโควิดแล้วค่อยมาเจรจากันใหม่ ซึ่งขณะนี้หลังรัฐบาลมีมาตรการต่างๆออกมา เริ่มมีลูกค้ากลับมาใช้จอแอลอีดี เพราะขึ้นได้เลย”
4 ธุรกิจที่ผันผวนคือ สื่อ เพราะขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ แต่ฟื้นตัวเร็วและยังเป็นธุรกิจที่มาร์จิ้นดีประมาณ 40% แต่ปีนี้อาจจะลดลงเพราะโควิด ดังนั้นแผนการลงทุน ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้เราจะขยายพอร์ตของสื่อ โดยจะเป็นเรื่องแอลอีดีเป็นหลัก จะมีเน็ตเวิร์กเดิม ที่ตอนนี้ผังเมืองเปลี่ยน เมืองขยายขึ้น ก็จะเพิ่มพื้นที่ไปยังจุดที่ไม่มีประมาณ 15-20 จอจาก 57 จอในกรุงเทพ และเข้า-ออกสนามบินอีก 34 จอจะขายพ่วงกับแพ็กเกจ 57 จอไปด้วย เพื่อเพิ่มเน็ตเวิร์กให้ลูกค้าโดยไม่ได้ลดต้นทุน แต่จะไม่ขยายเพิ่มในพื้นที่ต่างหวังหวัด เพราะเม็ดเงินใช้ในกรุงเทพมากกว่า ตามเมืองใหญ่มี 27 จังหวัดถือว่า พอแล้ว
สำหรับเงินลงทุนที่จะเพิ่มอีก 15-20 จอจะใช้ 250 ล้านบาท และอีกโครงการคือ เมกกะคอนเน็ก เป็นโครงการเน้นป้ายที่มีขนาดใหญ่ เฉลี่ยไม่ตํ่ากว่า 500 ตารางเมตร(ตรม.) จากเดิมเฉลี่ย 120 ตรม. ในพื้นที่ที่เป็นไพรม์แอเรียบวก ขณะที่คอนเท้นท์ จะเป็นกราฟฟิก 3D มีความคมชัดมาก การดีไซด์ที่ดูพรีเมียมขึ้น สร้างจุดแตกต่างให้กับแอลอีีดีที่มีในตลาดตอนนี้
“เราคงเคยเห็นที่ทางด่วน มีบิลบอร์ดขนาดใหญ่ จะเห็นว่าถูกจองหมด โอกาสที่คนจะต่อคิวก็ไม่มีสิทธิ์ แต่พอเศรษฐกิจไม่ดี ป้ายเริ่มว่าง จึงไปติดต่อมาทำเป็นแอลอีดี บางป้ายใหญ่มาก 900 ตรม.ก็มี แทนที่สินค้าเดียวจะจองแค่ป้ายเดียว ก็อาจจะมี 30 สินค้ามาลง เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่อยากลงก็ได้ลง จากเดิมที่ลงไม่ได้ เพราะถูกจองหมด”
โครงการเมกกะคอนเน็ก จะทำทั้งหมด 15-20 จอ ใช้งบลงทุน 600 ล้านบาท ขณะนี้มีในมือที่เซ็นสัญญาและเริ่มก่อสร้างน่าจะ 50% หรือประมาณ 10 จอ ส่วนที่เหลืออีก 30% หรืออีก 7-8 จออยู่ระหว่างเจรจาสัญญา ในแง่การทำงานได้เตรียมการไว้หมดแล้ว มีการโรดโชว์ คุยกับเอเจนซี่ พนักงานทุกคน ถูกอบรมเรื่องโปรดักส์แล้ว เพราะช่วงนี้ลูกค้าต้องตรียมงบไว้ ดังนั้นจาก 118 จอ จะทำให้เรามีจอเพิ่มเป็น 155-160 จอ
"ปีหน้า เราจะโตจากเงินลงทุนในสืิ่อ โดยตัวเสริมเน็ตเวิร์กเดิมจะมีรายได้เข้ามาไตรมาส 2 เมกกะคอนเน็กจะเข้าปลายไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งจะทำทั้งปีโต 50-80% เมื่อเทียบกับปี 2562 น่าเติบโตที่ 30-40% เพราะปีนี้เราคาดว่าจะเติบโตลดลง 20% ส่วนธุรกิจอสังหาฯ มองว่า เราน่าจะนำสินทรัพย์ไปทำให้เกิดประสิทธิภาพมากกว่านี้ อาจจะเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือกองรีท ส่วนพืี้นที่ว่าง ในเชียงใหม่อาจจะให้เช่าพัฒนาเป็นศูนย์ผู้สูงอายุ ขณะที่ EP น่าจะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในโรงไฟฟ้าที่เวียดนามได้ ขณะที่ธุรกิจแพกเกจจิ้ง น่าจะมีรายได้เข้ามาจากการค้าขายออนไลน์ที่บูม”
เป้าหมายของการลงทุนครั้งนี้ เพราะต้องการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดสื่อป้ายโฆษณาจากปัจจุบัน 6% ให้ขึ้นไปที่ 10% ขณะเดียวกันทริส ได้ประกาศอันดับความน่าเชื่อถือของเรา โดยคงอันดับที่ BBB-แนวโน้ม Stable แม้ทริสจะทบทวนในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งผ่านโควิดแล้ว และเราสามารถผ่านมาได้ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
AQUA เปิดธุรกิจสื่อนอกบ้านจ่อฟื้น ปี64 NEWSROOM 11-11-63
AQUA ตั้ง ‘ฉาย บุนนาค’ นั่งรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ นำทัพสื่อนอกบ้าน
AQUA โชว์กำไร ไตรมาสแรกเกือบ 65 ล้านบาท
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,626 วันที่ 12 - 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563