ดาวโจนส์ ปิดพุ่ง 470 จุด ขานรับวัคซีนต้านโควิดคืบหน้า

16 พ.ย. 2563 | 23:36 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2563 | 07:09 น.

ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 470.63 จุด ทำนิวไฮ ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 คืบหน้า

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3%
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,950.44 จุด เพิ่มขึ้น 470.63 จุด หรือ +1.60% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,626.91 จุด เพิ่มขึ้น 41.76 จุด หรือ +1.16% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,924.13 จุด เพิ่มขึ้น 94.84 จุด หรือ +0.80%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย.สหรัฐเตรียมอนุมัติการใช้วัคซีนโควิดของ "โมเดอร์นา-ไฟเซอร์" โดยเร็วที่สุด

เผยจุดเด่นวัคซีนต้านโควิด“โมเดอร์นา” ขนส่งสะดวก-จัดเก็บได้ดีในอุณหภูมิไม่ต่ำมาก

พยากรณ์อากาศวันนี้ เหนือ-อีสาน อากาศเย็น ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง

          

นักวิเคราะห์จากบริษัทดาโกตา เวลธ์ ในรัฐคอนเน็กติกัต กล่าวว่า ข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนของโมเดอร์นาช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน เพราะทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าการเปิดเศรษฐกิจและการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดก็ได้แรงหนุนจากความคืบหน้าของวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์
          

ทั้งนี้ โมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงเมื่อวานนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 94% โดยโมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 30,000 ราย
          

ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นโมเดอร์นาปิดตลาดพุ่งขึ้น 9.58% และยังเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นบริษัทยารายอื่นๆด้วย โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส บวก 0.95% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ดีดขึ้น 0.63% หุ้นไบโอเจน เพิ่มขึ้น 0.95%
          

หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจต่างก็พุ่งขึ้นขานรับความคืบหน้าของวัคซีน โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 5.16% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 4.49% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 4.22% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ดีดขึ้น 9.74% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ทะยานขึ้น 6.96% หุ้นนอร์วีเจียน ครุยส์ ไลน์ พุ่งขึ้น 6.23%
          

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจเช่นกัน โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 8.15% หุ้น 3M พุ่งขึ้น 2.29% หุ้นแคทเธอร์พิลลา บวก 0.86% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 3.46% ส่วนหุ้นค้าปลีกนั้น หุ้นเจซี เพนนีย์ ทะยานขึ้น 14.66% หุ้นเมซีส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 8.97% หุ้นโคห์ลส์ คอร์ป พุ่งขึ้น 7.7% หุ้นโฮม ดีโปท์ บวก 0.87%
          

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้น 3% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 5.76% หุ้นเชฟรอน ทะยานขึ้น 7.14% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 7.81% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 7.6%
          

หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ ผู้ผลิตเนื้อสัตว์รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และประกาศการจ่ายเงินปันผลสำหรับปีงบการเงิน 2564
         

 นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board