เตือน "คนละครึ่ง" อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า

01 ธ.ค. 2563 | 03:10 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ธ.ค. 2563 | 10:13 น.

กระทรวงการคลังขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า

นายพรชัย  ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอให้ร้านค้าอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือดำเนินการด้วยวิธีการอื่นๆ ที่ส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบประชาชนและทำลายบรรยากาศของการจับจ่ายใช้สอยอีกทั้งเป็นการดำเนินการที่ผิดเงื่อนไขของโครงการซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน ตลอดจนช่วยให้ร้านค้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้น

                สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.7 แสนร้านค้า และผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,515,956 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 31,777 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 16,226 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 15,551 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 184 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชลบุรี ตามลำดับ

                ทั้งนี้  หากพบพฤติกรรมการขึ้นราคาสินค้าหรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ อาทิ การรวมค่าบริการอินเตอร์เน็ตมือถือของร้านค้าอยู่ในราคาสินค้า สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการสามารถส่งข้อมูลมาที่ [email protected]  หรือติดต่อสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697 3527 3548 3509 (เวลาราชการ) หรือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1144 (24 ชั่วโมง)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"คนละครึ่ง" รัฐฯมั่นใจ ร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่งทะลุ 1 ล้านร้านค้า

"คนละครึ่ง" เชียงใหม่คึกคัก ยอดใช้จ่ายสะสมเกือบพันล้าน

ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส1 รีบใช้ให้หมด 3000ในสิ้นเดือนธันวาเพื่อรับสิทธิเฟส2อัตโนมัติ

                อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังได้มีการประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและตรวจสอบประเด็นดังกล่าวด้วยแล้ว หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำที่ผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้แอปพลิเคชันตลอดจนการจ่ายเงินของร้านค้าทันที และอาจจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงขอความร่วมมือร้านค้าให้ซื่อสัตย์ต่อประชาชนและขอให้ประชาชนรักษาสิทธิของตัวเองด้วย โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการอย่างเคร่งครัด