"คนละครึ่ง"ใช้จ่าย40 วันทะลุ 3.4 หมื่นล้าน ขยายสิทธิ์ต่อไปถึงมี.ค.64

04 ธ.ค. 2563 | 00:05 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ธ.ค. 2563 | 06:38 น.

ขยายสิทธิ์"คนละครึ่ง"เฟสแรกไปถึงมีนาคม 64  เผยยอดใช้จ่ายสะสม 40 วันพุ่ง  33,754 ล้านบาท 

 

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าหลังจากโครงการคนละครึ่งได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายมาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2563 เวลา 12.00 น. ( 40 วัน ) มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.9 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,526,815 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 33,754 ล้านบาท 


แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 17,236 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 16,518 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 181 บาทต่อครั้ง โดย 5 อันดับจังหวัดแรกที่มีการใช้จ่ายสะสมมากสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช ชลบุรี และเชียงใหม่ ตามลำดับ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง
 

 

ทั้งนี้ในเฟสแรกผู้ที่ได้รับสิทธิ์ 10 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์ในเฟส 2 เพิ่มอีก 500 บาท เพิ่มจากเดิมที่ได้รับไปแล้ว 3,000 บาท รวมทั้งจะได้รับขยายเวลาการใช้วงเงินจากเดิมสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2563 ไปเป็น 31 มีนาคม 2564 เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น  จึงยังไม่จำเป็นต้องรีบใช้ให้หมดภายในสิ้นปี 

 

ส่วนการเปิดให้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2 จำนวน 5 ล้านสิทธิ กระทรวงคลังจะเปิดลงทะเบียนได้ หลังจากได้รับความเห็นชอบจาก คณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

นายพรชัย  กล่าวต่อว่าการขยายโครงการ"คนละครึ่ง" ระยะสองเป็น 15 ล้านคน และการเติมเงินช่วยเหลือผู้ถือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "บัตรคนจน" อีก 500 บาท จำนวน 14 ล้านคน นาน 3 เดือน จะช่วยให้มีเงินสะพัดโดยตรงลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 66,000 ล้านบาท 

 

โดยแบ่งเป็นโครงการ "คนละครึ่ง" ใช้งบประมาณรัฐ 22,500 ล้านบาท เงินจากประชาชนอีก 22,500 ล้านบาท รวมเป็น 45,000 ล้านบาท และเงินใช้จ่ายจาก"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ"อีก 21,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ และลดค่าครองชีพ ทำให้จีดีพีประเทศเติบโตได้อีกอย่างน้อย 0.2%