ราคาทอง สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) เนื่องจากถ้อยแถลงในเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยติดต่อกันเป็นวันที่ 2
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,797.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 17.1 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 27.859 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 18.2 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ 1,257.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 87.00 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 2,422.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงหลุดจากระดับ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากนายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อคืนนี้ว่า แรงกดดันด้านราคายังคงอยู่ในระดับต่ำ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นการส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นทำนิวไฮของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 400 จุดหลังจากถ้อยแถลงของพาวเวลช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำเช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.3% สู่ระดับ 923,000 ยูนิตในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 855,000 ยูนิต
ด้านนายแมททิว เชย์ ประธานสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ (NRF) คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกในสหรัฐมีแนวโน้มพุ่งขึ้น 6.5-8.2% สูงกว่าระดับ 4.33 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ และมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง
"เรามีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยพื้นฐานทางด้านผู้บริโภค, อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และการกระจายวัคซีนในวงกว้าง จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ, ยอดค้าปลีก และการใช้จ่ายของผู้บริโภค" นายเชย์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: