บริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ ชี้แจงรายละเอียดต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ชี้แจงข้อมูลที่ผู้สอบบัญชีให้ข้อสังเกตหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 3 ซึ่งระบุว่าลูกค้ารายหนึ่งของบริษัทซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักในงานก่อสร้างโครงการแห่งหนึ่งมีการชำระเงินล่าช้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดและสภาพคล่องของบริษัท
โดยคำถาม มีรายละเอียด ดังนี้
1. บริษัทมีการเซ็นสัญญารับเหมาก่อสร้างกับผู้รับเหมาหลัก (Main Contractor) ตั้งแต่ปี 2562 คือ กิจการร่วมค้า พีเอสอี เอแอล เอสเอสไอเอ็นจี และเอสอีที (UJV) ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ปิโตรแฟค เซาท์ อีสท์ เอเซีย จำกัด (Petrofac), บริษัท ไซเพม (สิงคโปร์) จำกัด (Saipem), บริษัท ซัมซุง อีแอนด์เอ (ประเทศไทย) จำกัด (Samsung) ในงานก่อสร้าง โครงการพลังงานสะอาด หรือ Clean Fuel Project (CFP) ซึ่งโครงการตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี
โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินงาน ก่อสร้างโครงการ CFP นี้ จนถึง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 บริษัทมีการเซ็นสัญญากับ UJV รวม 4 สัญญา มูลค่าสัญญา และงานส่วนเพิ่มต่างๆ รวมจำนวน 7,330 ล้านบาท มีเงื่อนไขเทอมการชำระเงิน 45 วัน หลังได้รับใบแจ้งหนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มดำเนินงานก่อสร้างในปี 2562 UJV มีการชำระเงินเต็มจำนวนมาโดย ตลอด และระยะเวลาการชำระเงินของใบแจ้งหนี้แต่ละรายการเป็นการชำระใบแจ้งที่เกินกำหนดไม่ถึง 90 วัน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 เป็นต้นมา UJV เริ่มชะลอการจ่ายชำระหนี้ให้แก่บริษัท โดยงบการเงินระหว่างกาล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมียอดลูกหนี้การค้าที่เกินกำหนดชำระหนี้ จำนวน 887 ล้านบาท สินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญาจำนวน 682 ล้านบาท หนี้สินที่เกิดจากสัญญาจำนวน 200 ล้านบาท ลูกหนี้เงินประกัน ผลงานตามสัญญาจำนวน 113 ล้านบาท และงานโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและยังไม่รับรู้รายได้ (Backlog) รวม จำนวน 912 ล้านบาท (มูลค่างานนี้จะมีการทยอยดำเนินการก่อสร้างไปต่อเนื่องอันเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ใน สัญญาที่บริษัทไม่สามารถหยุดงานได้)
ทั้งนี้ UJV ได้แจ้งต่อบริษัทถึงเหตุผลในการชะลอการจ่ายชำระหนี้เนื่องจาก UJV กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขอเรียกเงินส่วนเพิ่มการดำเนินงานโครงการ CFP กับเจ้าของโครงการ และ UJV คาดว่าจะได้ข้อสรุปจากเจ้าของโครงการภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนถึงประมาณกลางเดือนธันวาคม 2567 นี้
พร้อมกันนี้ บริษัทมีการดำเนินการติดตามทวงถามและเจรจาเพื่อการชำระหนี้จาก UJV อย่างใกล้ชิด มาโดย ตลอดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ทาง UJV ขอเจรจาจ่ายชำระหนี้เพื่อนำมา เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ก่อสร้างโครงการ CFP ของบริษัทเพียงบางส่วน มีระยะเวลาการจ่ายชำระคือตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2567
ส่วนที่เหลือทั้งหมดเมื่อได้ข้อสรุปเรื่องการขอเงินส่วนเพิ่มจากเจ้าของโครงการแล้ว UJV จะส่งเอกสารยืนยัน แผนการชำระเงินให้แก่บริษัทต่อไป ซึ่งแผนการชำระเงินดังกล่าว UJVจะส่งให้แก่บริษัทหลังจากที่มีการทำสัญญา เพิ่มเติมกับเจ้าของโครงการเรียบร้อยแล้วซึ่ง UJV คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2567 ถึงต้นเดือนมกราคม 2568 โดยเวลาการจ่ายชำระหนี้ของ UJV กำหนดไว้ที่จะจ่ายชำระหนี้ทั้งหมดภายใน 3-6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป
2. จากการประเมินข้อเท็จจริงที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน บริษัทเห็นว่า UJV อยู่ในระหว่างการดำเนินการต่างๆ กับหลายฝ่ายที่ เกี่ยวข้องของโครงการนี้เพื่อสรุปแผนการชำระเงินคืนหนี้ที่คงค้างทั้งหมดให้กับบริษัท ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบที่จะ ก่อให้เกิดการขาดทุนสำหรับหนี้ค้างชำระที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน ทางบริษัทจึงพิจารณาที่จะรอผลสรุปของทาง UJV และ เจ้าของโครงการ ตามที่ UJV ให้ข้อมูลว่าที่จะเกิดขึ้นภายในเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม 2567 นี้ก่อน
อย่างไรก็ดี บริษัทมีการดำเนินการทางกฎหมายต่อคู่กรณีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อเรียกร้องให้ UJV ชำระเงินตาม สัญญาจ้างทำของโดยการยื่นดำเนินคดีต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากข้อสรุป ระหว่าง UJV และเจ้าของโครงการคลาดเคลื่อนไปจากที่กล่าวไว้ในข้อ 1 อันรวมถึงระยะเวลาและจำนวนเงินจ่าย ชำระหนี้ไม่เป็นไปตามที่เจรจาไว้ ทางบริษัทก็จะดำเนินการทางกฎหมายได้อย่างทันท่วงที
3. การแก้ปัญหาสภาพคล่องในช่วงระยะที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ บริษัทบริหารกระแสเงินสดเพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่อง โดยการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในส่วนของงานโครงการ CFP รวมถึงการเจรจาขอชะลอจ่ายชำระหนี้ ต่อคู่ค้าของบริษัท รวมถึงการขอความอนุเคราะห์ต่อลูกค้ารายอื่นในการชำระหนี้งานโครงการเร็วกว่าเครดิตเทอม ปกติเพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นไปอย่างต่อเนื่องในทุกโครงการ รวมถึงการใช้วงเงินสินเชื่อที่มีต่อ สถาบันการเงินที่บริษัทใช้เป็นทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานโครงการต่างๆ ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในส่วนของวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง บริษัทได้ใช้ลูกค้า UJV เป็นหลักประกันสำหรับ วงสินเชื่อแฟคตอริ่ง โดยเบิกตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้นมาเพื่อใช้ในการดำเนินงานโครงการ CFP อย่างไรก็ตาม เมื่อ เกิดการชะลอจ่ายชำระหนี้สำหรับใบแจ้งหนี้ที่บริษัทได้ทำแฟคตอริ่งกับสถาบันการเงินดังกล่าว บริษัทได้มีการขอ ความอนุเคราะห์ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ รวมถึงแผนการชำระเงินไปที่สถาบันการเงินดังกล่าวแล้ว โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการอนุมัติภายในเดือนธันวาคม 2567 นี้
กล่าวโดยสรุปจากสถานการณ์การชะลอการชำระหนี้ของ UJV ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่งผลกระทบทำให้ บริษัทมีการดำเนินการต่าง ๆ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นเพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และ พิจารณาที่จะรอผลสรุปของทาง UJV และเจ้าของโครงการที่จะเกิดขึ้นภายในเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม 2567 นี้ ตามที่ UJV ให้ข้อมูลไว้ ทั้งนี้เมื่อบริษัทได้รับความคืบหน้าเพิ่มเติมบริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ทราบต่อไป