นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ประสานขอความร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่กระทำผิดเงื่อนไขโครงการ เราชนะ เช่น การรับแลกวงเงินสิทธิ์เป็นเงินสด การขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม และอยู่ระหว่างตรวจสอบ ติดตาม ร้านค้าและผู้ให้บริการตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส
หากพบว่า มีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ของร้านค้าและผู้ให้บริการ ตลอดจนระงับการจ่ายเงินให้กับร้านค้าและผู้ให้บริการทันที รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการสามารถแจ้งเบาะแสรวมถึงส่งหลักฐานการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการ เราชนะ ทางไปรษณีย์มาได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail Account) [email protected]
ส่วนความคืบหน้าของโครงการ เราชนะ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2564 1.ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงปัจจุบันแล้ว 1.9 ล้านคน 2.ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.7 ล้านคน มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 33,084.5 ล้านบาทและ 3. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" และ "คนละครึ่ง" และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์แล้วมากกว่า 16.2 ล้านคน มีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 35,939.2 ล้านบาท
ดังน้ันมีผู้ใช้สิทธิ์โครงการ เราชนะ รวมทั้งสิ้น 29.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 69,023.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้า คนละครึ่ง ที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นมากกว่า 1.1 ล้านกิจการ โดยจังหวัดที่มีผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการลงทะเบียนเข้าร่วมสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ชลบุรี เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และสงขลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: