นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากประเทศเริ่มมีการฉีดวัคซีนในประเทศ ส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น และทำให้เกิดการเดินทางในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามได้รับรายงานว่าช่วงเทศสงกรานต์ในเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ ทางสายการบินต่างๆ ถูกจับจองเที่ยวบินเต็มทุกเที่ยวบินแล้วและปริมาณการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงนี้ก็เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีเพราะทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
“กรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตลาดบางแค มองว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการควบคุมเฉพาะพื้นที่เหมือนกรณีการระบาดที่จังหวัดสมุทรสาคร และเชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขจะสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้ ขณะที่รูปแบบการจัดงานเทศกาลสงกรานต์นั้น ยังต้องรอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจะมีการประชุมวันที่ 19 มี.ค.นี้” อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังกล่าว
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าขณะนี้สถาบันจัดอันดับเครดิตรวมทั้งศูนย์วิจัยหลายแห่งประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนเริ่มมีความเชื่อมั่น รวมทั้งประชาชนกลุ่มฐานรากจะมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่วนจะออกมาตรการฟื้นฟู หรือเดินหน้ามาตรการคนละครึ่ง เฟส 3 ต่อเนื่องหรือไม่นั้น จะต้องรอติดตามสถานการณ์และดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4 จะดีขึ้นแน่นอน เนื่องจากประเทศไทยจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งเป็นผลมาจากมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 และนักท่องเที่ยวมีใบรับรองการฉีดวัคโควิด โดยไทยจะต้องไปเจรจากับแต่ละประเทศ ซึ่งยังช่วยธุรกิจสายการบินระหว่างประเทศด้วย
ส่วนกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะมีวัคซีนและตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง แต่ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งหากเศรษฐกิจสหรัฐดีก็จะส่งผลดีต่อไทย โดยเฉพาะภาคส่งออก ที่เป็นรายได้เดียวของประเทศขณะนี้
“วันนี้ที่ผมไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ผมสบายดี และไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย ไม่รู้สึกปวดแขน ก็ฉีดวัคซีนอย่างอื่นอยู่บ่อยๆ เมื่อมีวัคซีนแล้วส่งผลดีต่อเศรษฐกิจแน่นอน และจะได้รับความคุ้มกันด้วยวัคซีนซึ่งทำให้คนมั่นใจมากขึ้น” อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าว