ทำความรู้จักกับสินทรัพย์ดิจิทัล

หากเอ่ยถึงสินทรัพย์ดิจิทัล เงินคริปโท โทเคนดิจิทัล บิตคอยน์ หลายคนอาจมึนงงกับศัพท์เหล่านี้ แต่ถ้ามองย้อนประวัติศาสตร์การซื้อขายแลกเปลี่ยนในอดีตจนมาถึงการใช้เงินตราในปัจจุบัน เราก็จะเข้าใจถึงสินทรัพย์ไฮเทคเหล่านี้ได้ไม่ยาก แถมนี่ยังอาจเป็นช่องทางลงทุนใหม่ๆ ที่น่าสนใจและทำได้ง่ายกว่าที่เราคิด 

เมื่อเทคโนโลยีก้าวลํ้าขึ้น ข้อมูลทุกอย่างสามารถเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ โดยไม่จำเป็นต้องเขียนบันทึกบนกระดาษเหมือนเมื่อก่อน “มูลค่าเงิน” จึงถูกแปรเป็นข้อมูลดิจิทัลด้วยเช่นกัน โดยยังใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่างๆ ได้ตามปกติ โดยมีการพัฒนา “เงินดิจิทัลยุคใหม่” ที่มีความเป็นสากล และมีความยืดหยุ่นในการใช้สอยในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้ 

สกุลเงินคริปโท (Cryptocurrency) ก็คือ วิวัฒนาการของเงินตรา ที่่เปลี่ยนจากการถือและใช้จ่ายด้วยเงินสด มาเป็นการถือชุดข้อมูลดิจิทัลที่แสดงมูลค่าของเงิน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการพกพา โอน ซื้อขาย และอื่นๆ ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากกว่าเงินตราปกติ และเช่นเดียวกับสกุลเงินตราปกติที่มีหลายสกุลเงิน ทั้งบาท ดอลลาร์ หยวน ยูโร สกุลเงินคริปโทเองก็มีหลายสกุลเงินเช่นเดียวกัน เช่น บิตคอยน์ อีเธอเรียม 

สินทรัพย์ดิจิทัลปัจจุบัน จึงไม่ได้มีเฉพาะเงินคริปโทเท่านั้น แต่ยังสามารถแปลงสินทรัพย์ที่มีมูลค่า เช่น อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม โรงงาน ให้เป็น บิตคอยน์” ซึ่งตามกฎหมายของประเทศไทยสามารถแบ่ง สินทรัพย์ดิจิทัลเป็น 2 ประเภทหลักคือ 

1.โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) หลังจากสินทรัพย์ได้ผ่านกระบวนการแปลงเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนและนำออกเสนอขายแล้ว นักลงทุนหรือผู้ซื้อโทเคนจะได้รับสิทธิในส่วนแบ่งรายได้หรือผลกำไรจากธุรกิจหรือโครงการของผู้ออกโทเคน โดยผู้ออกโทเคนจะแจ้งสิทธิและเงื่อนไขตั้งแต่แรกไว้ว่า นักลงทุนจะได้ส่วนแบ่งและผลประโยชน์อะไรบ้างจากการลงทุนซื้อโทเคนชนิดนั้นๆ โดยผลตอบแทนที่นักลงทุนได้รับจะอ้างอิงจากกระแสรายได้ของสินทรัพย์นั้นๆ 

2.โทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) เป็นโทเคนที่มอบสิทธิประโยชน์หรือโควตาการใช้บริการต่างๆ ให้กับผู้ถือครองโทเคน สามารถเปรียบได้กับบัตรกำนัลหรือแต้ม Reward Point ของธุรกิจในปัจจุบัน

ไม่ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลทั้ง “สกุลเงินคริปโท” และ “โทเคนดิจิทัล” ล้วนอยู่ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัล จึงจำเป็นต้องถูกจัดเก็บในระบบที่มีความปลอดภัยสูงและป้องกันการเจาะเข้าระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบที่ถูกใช้ในธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลคือ “บล็อกเชน (Blockchain)” ซึ่งมีความมั่นคงปลอดภัยสูงมาก เมื่อบันทึกข้อมูลแล้วจะแก้ไขได้ยากมากๆ เพราะมีการกระจายสำเนาเก็บไว้หลาย ๆ ที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รายใดรายหนึ่งเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยทุจริต

วันนี้เราเดินทางเข้าสู่ยุคของการแข่งขันบนโลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทุกสิ่งรอบตัว แม้กระทั่ง “สินทรัพย์” ยังถูกพัฒนาอยู่บนโลกดิจิทัล จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดใจและปรับตัว ซึ่งการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ใช่เรื่องใหม่ทั้งหมด เป็นเพียงวิวัฒนาการของเงินตราและการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและเปิดโอกาสใหม่ในการลงทุนให้แก่ทุกคนที่สนใจ 

หากมองถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลลึกลงไปนั้นประกอบไปด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้นักลงทุนได้ประโยชน์สูงสุด เพราะเป็นการเปิดโอกาสการลงทุนของเราทุกคนให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถทำผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถเข้าถึงการลงทุนที่หลากหลายและตรงกับความสนใจของตัวเองมากขึ้น รวมถึงนักลงทุนหน้าใหม่ที่มีเงินไม่มาก ก็สามารถลงทุนกับโทเคนดิจิทัลได้ เพราะเมื่อสินทรัพย์ถูกย่อยเป็นหน่วยเล็กๆ ในรูปแบบโทเคนดิจิทัลที่มีราคาต่อหน่วยไม่สูงมาก เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่ในอดีตอาจเข้าถึงไม่ได้หรือเข้าถึงได้ยาก 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ซิปเม็กซ์"หนุนร่างคุณสมบัติสินทรัพย์ดิจิทัลของ ก.ล.ต.มั่นใจปกป้องนักลงทุนรายย่อย

XRP-Ethereum ควงแขนให้ผลตอบแทนเกิน 100%

สินทรัพย์ดิจิทัลรายเดิม ยื่นไลเซนซ์ภายใน 24 ก.พ. 64

เฮ! สนั่น”บิตคอยน์”ทะลุ 1.5 ล้านบาท

ต้นปี Ethereum ผลตอบแทนพุ่ง 84.99%

หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,663 วันที่ 21 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2564