หลังจากวันที่ 24 มีนาคม 2564 คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ประกาศเป้าหมายการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (ไฮบริด,ปลั๊ก-อินไฮบริด และอีวี) มีจำนวนสะสมตั้งแต่วันนี้จนถึงปี 2578 ถึง 15,580,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์/รถปิกอัพ 6,400,000 คัน รถจักรยานยนต์ 8,750,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุก 430,000 คัน ขณะเดียวกันยังมีการเสนอให้ รถยนต์ที่ขายในไทยตั้งแต่ปี 2578 ต้องเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% โดยใช้คำว่า ZEV หรือรถที่ไม่ปล่อยไอเสีย เช่น BEV และรถ Fuel cell (พลังงานไฮโดนเจน)
ประเด็น รถที่ขายในไทยตั้งแตปี 2578 ต้องเป็น EV นายองอาจ พงศ์กิจวรสิน นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในฐานะตัวแทนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์/รถจักรยานยนต์ และบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เปิดเผยว่า เป้าหมายนี้สามารถทำได้จริงหรือเปล่ายังไม่ทราบ แต่การส่งสัญญาณแรงแบบนี้ มีผลต่อความมั่นใจในการลงทุนของผู้ผลิตยานยนต์ และชิ้นส่วนแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นค่าย ญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐอเมริกา
“การตั้งเป้าขาย EV ทั้งหมดในปี 2578 ไม่ง่าย หรือกลุ่มประเทศในยุโรปที่ตั้งเป้าหมายแบบนี้ ก็เชื่อว่าทำจริงได้ไม่ง่าย แต่การส่งสัญญาณอะไรออกมาจากรัฐบาลควรระมัดระวัง”
สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สนับสนุนยานยนต์ทุกประเภท ทั้ง ICE และรถพลังงานไฟฟ้า แต่การเปลี่ยนผ่านนี้คงต้องใช้เวลา โดยมีเทคโนโลยีไฮบริดเป็นตัวเชื่อม โดยสมาคมฯ อยากให้อีวี เกิดเช่นกัน แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่ยั่งยืน และมีมูลค่าเพิ่มในประเทศ
“เราอยากให้รัฐบาลทบทวนในการส่งสัญญาณต่างๆออกไป (ประเด็นบังคับขาย EV ในปี 2578) เพราะอาจจะกระทบต่อฐานการผลิต หรือสะเทือนไปทั้ง ค่าย ญี่ปุ่น เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา” นายองอาจ กล่าว
ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อัพเดตล่าสุดว่า นโยบาย EV ในปี 2578 เป็นเพียงการตั้งธงเอาไว้ แต่ระหว่างนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปศึกษา และนำมาสรุปในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติอีกครั้ง