พลตำรวจโทเพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าคณะทำงานปราบปรามผลิตภัณฑ์และการบริการด้านสุขภาพที่ผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมด้วย เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ พลตำรวจตรีณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
ร่วมแถลงผลการลงพื้นที่ 5 แหล่ง จับกุมผู้กระทำความผิดในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยพบการนำเข้าเครื่องมือแพทย์โดยไม่จดทะเบียน สถานประกอบการ ผลิตเครื่องสำอางโดยไม่จดแจ้ง หรือยังไม่ได้รับใบจดแจ้งก่อนผลิต ผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางปลอมที่ใช้ฉลากแจ้งชื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้าหรือแหล่งผลิตที่ไม่ใช่ความจริง
โดยสามารถตรวจยึดของกลางได้ประกอบด้วย 1. หน้ากากอนามัย 350,000 ชิ้น 2. อุปกรณ์ชุดตรวจ โรคโควิด-19 จำนวน 55,000 ชุด 3. เครื่องวัดอุณหภูมิ แบบอินฟราเรด 1,200 เครื่อง 4. ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ 53,000 ลิตร 5. ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ 7,896 ชิ้น 6. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 8,271 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดกว่า 50 ล้านบาท
เภสัชกรหญิงสุภัทรา กล่าวว่า อย. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค โดยจะขยายผล เข้าตรวจสอบหาโรงงานที่ลักลอบผลิต นำเข้าและจำหน่าย หากพบผู้รับอนุญาตฯ รายใดมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและใช้มาตรการทางปกครองทันที ขอเตือนผู้ประกอบการอย่าซ้ำเติมสถานการณ์โควิด-19 ลักลอบนำเข้าอุปกรณ์ชุดตรวจโรคโควิด-19 เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับผู้ผลิตเครื่องสำอางควรเลือกวัตถุดิบแอลกอฮอล์ให้ดีก่อนซื้อมาผลิต ห้ามใช้เมทิลแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด เพราะจะเกิดอันตรายกับผู้บริโภค แนะให้ซื้อจากแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบที่น่าเชื่อถือและขอเอกสารระบุรายละเอียดของวัตถุดิบ (CoA) เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ นอกจากนี้ ในกรณีที่พบแป้งเปียกผสมสีบรรจุขวดติดฉลากว่าเป็นเจลแอลกอฮอล์ จัดเป็นเครื่องสำอางปลอมโทษมีทั้งจำคุกหรือปรับ ซึ่ง อย. พร้อมเอาผิดกับผู้ประกอบการที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคทุกกรณี
สำหรับผู้บริโภคอย่าซื้ออุปกรณ์ชุดตรวจโรคโควิด-19 ทางเว็บเพจหรือสื่อออนไลน์มาใช้โดยเด็ดขาด เพราะการตรวจวิเคราะห์ต้องกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่มีความชำนาญในการอ่านและแปลผล หากตรวจด้วยตนเองแล้วเกิดข้อผิดพลาดอาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่าตนเองไม่ติดเชื้อ จะทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อมากขึ้น และอย่าหลงเชื่อโฆษณาขายยาต้านไวรัสทางเว็บเพจอ้างช่วยรักษาโรคไวรัสโคโรนา เพราะการใช้ยาดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ การซื้อมาใช้เองอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยา ที่สำคัญกฎหมายไม่อนุญาตให้ขายยาผ่านทางอินเทอร์เน็ต เสี่ยงได้รับยาไม่มีคุณภาพหรือยาปลอม และการเลือกซื้อเครื่องสำอางเจลแอลกอฮอล์ขอให้ตรวจสอบเลขจดแจ้งของผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อทุกครั้งโดยสามารถตรวจสอบได้ที่ Oryor Smart Application หรือ อย.ตรวจเลข หรือ Line @ Fdathai
พลตำรวจโท เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการกักตุนหน้ากากอนามัยและถูกนำมาจำหน่ายในราคาที่สูงเกินสมควร อีกทั้งมีการลักลอบนำอุปกรณ์ชุดตรวจโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นเครื่องมือแพทย์ และ เจลแอลกอฮอล์มาโฆษณาขายผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจทำให้เกิดอันตราย แก่พี่น้องประชาชนได้
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามผลิตภัณฑ์และการบริการด้านสุขภาพที่ผิดกฎหมายขึ้นมา โดยเน้นย้ำในการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่และประสานการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ซึ่งจากผลการปฏิบัติที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมตรวจยึดของกลางได้จำนวนมาก และขอฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการที่ยังลักลอบกระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นการผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ให้หยุดการกระทำดังกล่าว หากตรวจพบจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด