บันทึกประวัติศาสตร์โควิด ภูเก็ตร่วมฟื้นฟูใจชวน“ไทยเที่ยวภูเก็ต”

 

 

พักฟื้นหลังศึกโควิด 12 องค์กรภาคเอกชนภูเก็ตจัดนิทรรศการภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ เพื่อเป็นบทเรียนและแรงบันดาลใจ "Finally, We Meet Again!"เพราะรักและช่วยกันฟันฝ่าวิกฤต ด้าน"เซ็นทรัล ภูเก็ต"เปิดพื้นที่ให้โรงแรมภูเก็ตจัดโปรโมชัน"ไทยเที่ยวภูเก็ต" ขายแพ็กเกจที่พักราคาพิเศษฟื้นชีพจรธุรกิจ

ภูเก็ต ไข่มุกแห่งอันดามัน อีกจุดหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ผ่านวิกฤตโรคระบาดไวรัสโควิด-19 มาอย่างสะบักสะบอม เพราะเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้่่ยงเศรษฐกิจบนเกาะเกี่ยวต่อเนื่องกับการท่องเที่ยว ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เมื่อโควิด-19 มาผู้คนทั้งโลกหยุดเดินทาง เก็บตัวอยู่กับบ้าน เม็ดเลือดเลี้ยงเศรษฐกิจเกาะภูเก็ตก็หายวับ ซ้ำเติมด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดก็เป็นพื้นที่เสี่ยงลำดับต้นของประเทศ ศึกที่เชื้อโควิด-19 รุกไล่ในช่วงแรก ระดมสรรพกำลังร่วมใจกันปิดล็อกพื้นที่จนคุมสถานการณ์ปลอดจากผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ในท้ายที่สุด  
    

วันนี้ภูเก็ตกำลังเตรียมตัว เพื่อกลับมาเป็นไข่มุกอันดามันที่จะจรัสแสงอีกครั้ง หลังจากโลกสามารถดูแลโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้สำเร็จ เริ่มด้วยก้าวแรกคือ การเปิดบ้านรับนักท่องเที่ยวไทยด้วยกันเองเวลานี้ ประจวบกับที่รัฐบาลออกแผนกระตุ้น"ไทยเที่ยวไทย" ด้วยโครงการเราไปเที่ยวกัน เพื่อจุดประกายชีพจรท่องเที่ยวให้ฟื้นกลับคืนมา คนภูเก็ตยังคงยื่นมือมาประสานเพื่อก้าวสู่อนาคตร่วมกัน
     

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 12 องค์กรภาคเอกชนภูเก็ต ร่วมกันจัดนิทรรศการ “Finally, We Meet Again!” เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์มากมายที่ผ่านมาในช่วงโควิด-19 ที่สามารถผ่านกันมาได้ด้วยหัวใจของความเป็นภูเก็ตที่แท้จริง คือ รักกัน ช่วยกัน จึงเติบโตมาถึงทุกวันนี้ที่เหตุการณ์เริ่มคลี่คลายได้ เป็นสิ่งยืนยันว่า  ซึ่งสุดท้าย! เรารักกัน เราช่วยกัน เราจึงมียังคงมี“ภูเก็ต” บ้านของเราทุกคน เพื่อเก็บประวัติศาสตร์ครั้งนี้ไว้จึงร่วมกันจัดนิทรรศการ “Finally,We Meet Again!” ไว้เป็นบทเรียน เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นความทรงจำ ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 ก.ค. 2563 เวลา 11.00-20.00 น. ณ ไลม์ไลท์ อเวนิว ภูเก็ต
    

12 องค์กรภาคเอกชนภูเก็ตร่วมจัดงาน ได้แก่ หอการค้าจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต สมาคมผู้ประกอบการโรงแรมหาดกะตะกะรน สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด สมาคมสปาเพื่อสุขภาพจังหวัดภูเก็ต สมาคมที่พักบูติคจังหวัดภูเก็ต และสมาคมมัคคุเทศก์อันดามัน ร่วมกับไลม์ไลท์ อเวนิว ภูเก็ต King Art Advertising Phuket LED  Design ทีมงาน IDEA TV8 Phuket Excon Pro และทีมจิตอาสาโรงพยาบาลสนามภูเก็ต

อ่านประกอบ

ภูเก็ต"รวมใจ"ตั้งโรงพยาบาลสนาม

จ้าละหวั่นวินาที"ภูเก็ต"ปิดเกาะ

"ภูเก็ตโมเดล"ต้นแบบ"เปิดท่องเที่ยว"หลังโควิด 

แนวรบภูเก็ตคลี่คลาย"นักรบเสื้อขาว"ถอนกำลังกลับสงขลา

ปิดร.พ.สนาม"ภูเก็ต"ปลอดผู้ติดเชื้อแล้ว 

เสียงจากหัวใจคนภูเก็ตส่วนหนึ่ง มีอาทิ  นายพิพัฒน์  สิทธิพงศ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่.4 ต.รัษฎา จ.ภูเก็ต กล่าวว่า “เมื่อวันที่ผู้คนไม่สามารถออกมาทำงานหาเลี้ยงชีพได้อีก เมื่อวันที่ทุกอย่างหยุดลงอย่างกระทันหัน ผมเชื่อว่าจิตใจทุกคน เริ่มต้นจากรู้สึกสับสน แล้วเราก็เริ่มหวาดกลัว กลัวทั้งการติดเชื้อ กลัวที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้มันจะจบลงตรงไหน และท้ายสุดคือกลัว.....ว่าพรุ่งนี้เราจะเอาอะไรกิน วันนั้นมันมืดมนมากครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่พี่น้องในหมู่บ้านผมใช้หล่อเลี้ยงหัวใจในวันนั้น ให้มีชีวิตถึงวันนี้ได้ คือ น้ำใจของคนภูเก็ตทุกคนครับ ข้าวสารทุกเม็ด น้ำดื่มทุกขวด ปลอบประโลมหัวใจให้พวกเรานำพาชีวิตมาถึงวันนี้”
    

แพทย์หญิง บุษยา สันติศานติ์ รักษาการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสนามภูเก็ต กล่าวว่า “คำว่าหมอ สำหรับตัวเอง มันคือจิตวิญญาณของคนทำงานด้านการรักษาพยาบาล วิกฤตโควิดครั้งนี้ทำให้เรา ทีมรักษาทุกคนที่ทำงานอาชีพด้านนี้ ได้เข้าใจลึกซึ้งและถ่องแท้ว่า อาชีพหมอของพวกเราคือเพื่อน ผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันกับผู้คนแต่ละวัน ในช่วงเวลาการรักษาเราเห็นแววตาของผู้ป่วย เราเห็นการต่อสู้ของเขา เราเห็นรอยยิ้ม เห็นรอยน้ำตา ความเชื่อมั่นเเละความหวัง เราคิดเสมอเขาคือน้องเขาคือพี่ของเรา
    

วันนี้เค้ากินข้าวได้ไหม เค้านอนหลับไหม มันสารพัดความรู้สึกที่เราถ่ายทอดและแบ่งปันกัน
      

ในวันนี้ หมอคงพูดได้เต็มปากว่า ไม่ใช่หมอฝ่ายเดียวนะที่เป็นนักรบกับศัตรูที่มองไม่เห็น เช่น เจ้าเชื้อโควิดนี้ ผู้ป่วยก็คือคู่หูคือเพื่อนร่วมทางเคียงบ่าเคียงไหล่กับหมอ เราสู้มาด้วยกัน หรือแม้แต่ผู้คนที่ต้องกักตัวอยู่กับบ้าน พวกคุณจิตใจยิ่งใหญ่มากค่ะ  หมอขอขอบคุณที่คุณอดทน เพื่อเราจะฝ่าวิกฤติช่วงนั้นมาด้วยกัน เป็นเกียรติที่ได้ดูแลและต่อสู้เพื่อเมืองภูเก็ตด้วยกัน”

    

นายสรายุทธ  มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต  กล่าวว่า “เมื่อไฟทุกดวงของห้างร้าน ของสถานประกอบการถูกปิดลง โดยไม่ทันที่ทุกคนได้ตั้งตัว ผมเชื่อเหลือเกินว่า ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีใครเคยประสบพบเจอมาก่อน ใครจะเชื่อว่าร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงที่เราเดินเข้าออกคุ้นเคยจะปิดลง ใครจะเชื่อล่ะว่าไฟสนามบินที่เราใช้เดินทางผ่านไปมาแทบนับครั้งไม่ถ้วนจะปิดลง วันเวลาเหล่านั้นสอนให้เรารู้แล้วว่า ทุก ๆ อย่างล้วนเกิดขึ้นได้ เราต่างหากที่จะต้องหาหนทางรับมือกับมัน”                 

    

นางสาวเชิญพร  กาญจนสาย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “ไฟทุกดวงที่เคยดับลงไป มันคล้ายกับว่า ได้ดับวูบชีวิตผู้คนมากมาย วันนั้นดิฉันเข้าใจดีว่า ความมืดนั้นคือความสิ้นหวัง หลายคนตกงานโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ผู้ประกอบการน้อยใหญ่หลายแห่งแทบล้มทั้งยืน หลายคนต้องเก็บข้าวของที่นอนหมอนมุ้งกลับบ้านเกิดทั้งน้ำตา เราไม่มีใครเจ็บกว่าใคร เราล้วนเจ็บด้วยกันทุกคนค่ะ แต่เราเจ็บเพื่อจบค่ะ”

             
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “ในอดีตบรรพบุรุษคนภูเก็ตคือนักสู้  นับแต่เราต้องอพยพโยกย้ายมาตั้งถิ่นฐาน จากเกาะร้างชายฝั่งจนเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกได้นั้น เราและเถือกเถาเหล่ากอเราต่อสู้กันมามากมาย
               

เราผ่านยุครุ่งเรือง ยุคเสื่อมคลาย ตั้งแต่เหมืองแร่ดีบุก ยางพารา เราก็ยังอยู่กันมาได้ ที่นี่คือเกาะเเห่งความหวัง คือที่ ๆ รวมผู้คนที่แสวงหาชีวิตที่ดีกว่า วันนี้บ้านของเรา เกาะของเรายังไม่หมดหวัง ข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด ทุกท่านลองกลับไปมองสิครับ สามเดือนที่ผ่านมามันหนักหนาแค่ไหน ทำไมเราผ่านกันมาได้
               

หัวใจของเรา ของทุกท่าน หัวใจของความเป็นคนภูเก็ต คนที่จะไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ คนที่พร้อมจะสร้างโอกาสให้กับตัวเองแม้ในยามมืดมน วันนี้ขอปลุกฝันปลุกกำลังใจให้ทุกคนลุกขึ้นมาสู้อีก ถ้าเราจะเริ่มคลานเราก็จะคลาน เพื่อวันหนึ่งเราจะได้เดิน ถ้าเราต้องเดินเราก็จะเดินเพื่อวันหนึ่งเราจะได้วิ่ง ขอให้ทุกคนอย่ายอมแพ้”
               
    

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “ระยะการแพร่ระบาดคือบททดสอบ บทที่ 1 ภูเก็ตเราสอบผ่านมาแล้ว มันทำให้ความคิดที่ว่า “Finally, We Meet Again!” และแล้ววันนี้เราก็ได้กลับมาพบกันอีก การพบกันครั้งนี้เพื่อที่เราจะบอกกันว่า ระยะการฟื้นตัว ทั้งจิตใจและเศรษฐกิจ คือบททดสอบที่ 2 คือตอนนี้คือวันนี้ ผมเชื่อว่าความท้าทายบทนี้ จะเป็นประวัติศาสตร์จะเป็นตำรานอกระบบ ที่เราทุกคนเอาไว้สอนคนรุ่นหลังต่อ ๆ ไป ณ วันนี้ผมขอเป็นตัวแทนขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ร่วมฝ่าฟันกันมา และยังร่วมมือกันฝ่าฟันต่อไป เรายังไม่หยุด ที่จะดิ้นรนทุกวิถีทางให้พวกเราทำมาหากินกันได้"
                
    

นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวในวันเปิดงานว่า "กระผมในฐานะประชาชนคนภูเก็ตอีกคนหนึ่ง ซาบซึ้งใจที่วันนี้เราได้มาพบเจอกันแบบเกือบปกติได้อีกครั้ง เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราทุกคนเด็ดเดี่ยวและอดทนมาด้วยกัน จนยากจะหาคำใดๆ มาชื่นชมกันได้  เราเดินทางฝ่าพายุลูกใหญ่นี้มา ตอนนี้เรายังไม่สามารถหยั่งรู้แบบแม่นยำได้ว่า นี่คือส่วนไหนกันของพายุ ที่เรากำลังเดินอยู่ แต่เรายังต้องสู้กันต่อ ถ้าทุกข์ผมก็จะร่วมทุกข์กับทุกคน ถ้าสุขผมก็จะร่วมสุขกับทุกคน นิทรรศการภาพถ่ายครั้งนี้ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และสร้างคุณค่าให้กับสังคมภูเก็ตมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และขอให้กำลังใจ และร่วมแรงร่วมใจ  สู้กับพี่น้องคนภูเก็ตอีกครั้ง เพื่อบททดสอบต่อๆ ไป”
  

 

ขณะเดียวกัน  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต ที่ได้ทุ่มเทดูแลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน รวมทั้งให้การดูแลช่วยเหลือคนภูเก็ตทุกกลุ่มอย่างเป็นลำดับมาโดยตลอด ทั้งกลุ่มลูกค้า กลุ่มคู่ค้า กลุ่มเกษตรกร กลุ่มมัคคุเทศก์ ล่าสุดคือ การให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจโรงแรม ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 จึงได้หารือและจับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต สมาคมที่พักบูติกภูเก็ต และสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ต เปิดพื้นที่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ให้จัดงาน“ไทยเที่ยวภูเก็ต” เพื่อให้โรงแรมต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ตกว่า 20 แห่ง  สามารถเสนอแพ็คเกจที่พักราคาโปรโมชั่น ลดราคาห้องพักสูงสุดถึง 70%  เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต ดึงกลุ่มคนไทยเข้าภูเก็ต เป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการโดยตรง และเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตให้เดินหน้าต่อไปได้”
 

 งานนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 2 ส.ค. 2563  ณ ลานกิจกรรม Public House ชั้น 1 ฝั่งเฟสติวัล ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต