ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยอดโควิด 3 ส.ค.63 ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย กลับจากต่างประเทศ
ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 18.2 ล้านราย วันเดียวติดเชื้อเพิ่ม 2.1 แสนราย
"หมอยง" ชี้ไวรัสโควิดเกือบทั่วโลกเป็นสายพันธุ์ G แพร่กระจายง่าย
รัสเซียเตรียมฉีด วัคซีนต้านโควิด-19 ให้ "หมอ-ครู" เป็นกลุ่มแรกต.ค.นี้
โฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อระลอกสองของต่างประเทศ ซึ่งบางประเทศเป็นระลอกสามว่า ออสเตรเลีย มีตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 63 ซึ่งสูงกว่าระลอกแรก อิสราเอล ก็มียอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในระลอกสองเช่นกัน ขณะที่ฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อระลอกสามในเดือนกรกฎาคม ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อสูงกว่าระลอกแรก ญี่ปุ่นกับโครเอเชีย ก็มีผู้ติดเชื้อระลอกสองสูงกว่าระลอกแรก เหล่านี้เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งอยากให้ประเทศไทยไม่มีสถานการณ์เช่นนี้
โฆษก ศบค. เผยรายงานของต่างประเทศว่า สถานการณ์ที่เวียดนามมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นรายที่ 6 เพียงสัปดาห์เดียวมีผู้ป่วยพุ่งถึง 182 ราย ยอดรวม 621 ราย ทางการเวียดนามต้องกักตัวประชาชนมากกว่า 1 แสนคน ผู้ที่เสียชีวิต 6 รายอายุตั้งแต่ 53-86 ปี ทุกรายมีโรคประจำตัว โดยที่ฮานอยปิดสถานบันเทิง ห้ามขายของริมถนนชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัส เนื่องจากการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ไม่ได้รับอนุญาต ฟิลิปปินส์ แพทย์และพยาบาลออกมาขอให้รัฐล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นรอบใหม่ โดยบุคลากรทางแพทย์ 80 กลุ่ม เป็นตัวแทนแพทย์ 80,000 คน และพยาบาล 1 ล้านคน ได้ออกมาเตือนว่าระบบสาธารณสุขจะล้มเหลว เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องหากไม่มีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดในกรุงมะนิลา และจังหวัดใกล้เคียง
ขณะที่ฮ่องกง เจอระลอกสาม ผู้เชี่ยวชาญชี้การ์ดตก และเชื้อกลายพันธุ์แพร่เร็วขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามาจาก 3 ปัจจัย คือ 1. มาตรการที่ให้กักตัวที่บ้าน 2. รัฐบาลยกเว้นการตรวจ และการกักตัวให้กับบุคคลหลายกลุ่ม เช่น ลูกเรือที่มากับสายการบิน เรือสินค้า รวมทั้งผู้บริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และคนงานต่างด้าวที่มาทำงานบ้าน รวมจำนวนมากกว่า 2 แสนคน 3. ประชาชนผ่อนคลายวินัยไม่ระมัดระวังป้องกันโรค ไม่ใส่หน้ากากอนามัย และไม่เว้นระยะห่าง ซึ่งเราจะต้องเรียนรู้จากฮ่องกง เพราะฮ่องกงเจอกับระลอกสามที่สูงมากขณะนี้ ส่วนออสเตรเลีย เผชิญโควิดระลอกสอง ประกาศเป็นภาวะภัยพิบัติ โดยดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 คือ ห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่เวลา 20.00 – 05.00 น.วันรุ่งขึ้น อนุญาตให้ออกนอกบ้านได้เพียง 1 คนต่อครัวเรือนต่อวันในช่วงเวลานอกเคอร์ฟิว และห้ามเดินทางไปไกลเกิน 5 กิโลเมตรจากบ้าน หลังจากที่มีการพบเชื้อวันเดียว 671 ราย
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ศบค. ชุดเล็กได้นำตัวเลขของต่างประเทศมาพิจารณาร่วมกับทุกกระทรวง ซึ่ง ศบค. กำลังจะพัฒนามาตรการระดับ 4 ที่เข้มข้น โดยจะใช้สีขาว เขียว เหลือง ส้ม แดง เป็น 5 ระดับ จะประกาศให้ชัดเจนในแต่ละระดับ ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการเพื่อใช้เป็นมาตรการเดียวกัน โดยจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนรับทราบและให้ความร่วมมือต่อไป ด้านห้องปฏิบัติการเครือข่ายของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีจำนวน 216 แห่ง และจำนวนตัวอย่างที่ได้รับการตรวจ COVID-19 RT-PCR ตั้งแต่วันที่เปิดบริการ - 31 กรกฎาคม 63 จำนวนทั้งสิ้น 749,213 ตัวอย่าง
สำหรับยอดสะสมการใช้งาน www.ไทยชนะ.com ตั้งแต่เริ่มโครงการ มีผู้ใช้งาน 40,293,791 คน ร้านค้าลงทะเบียน 281,617 ร้าน โดยสัดส่วนการเช็คอิน/เช็คเอาท์ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะอยู่ที่ร้อยละ 95.2 ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะร้อยละ 4.8 และยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไทยชนะ 867,440 ครั้ง ทั้งนี้ การตรวจกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายด้านการดำเนินชีวิต วันที่ 2 สิงหาคม 63 ได้ทำการตรวจทั้งหมด 244 แห่ง พบกิจการ/กิจกรรมที่ปฏิบัติตามมาตรการไม่ครบ 33 แห่ง และไม่มี “ไทยชนะ” 33 แห่ง และโฆษก ศบค. ย้ำ ประชาชนสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียน และแจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เบอร์ 191 1599 และ 1138 สายด่วน ศปม.