อสม.เตรียมเฮ สธ.พร้อมจ่ายเงินค่าตอบแทนโควิด 21 ก.ย.นี้

03 ก.ย. 2563 | 20:00 น.

เคาะวันแล้ว! สธ.จ่อจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับอสม.จำนวน 3,500 บาทในวันที่ 21 กันยายนนี้ พร้อมชี้แจงกรณีที่มีข่าวอ้างว่าช่วยบรรจุเป็นข้าราชการรุ่นโควิดได้ ย้ำชัดว่าไม่เป็นความจริง

แพทย์หญิงพรรณประภา ยงค์ตระกูล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า บทบาทของ อสม.ในการดำเนินการต้านภัยโควิด-19 ที่เป็นด่านหน้า ออกเคาะประตูบ้านเฝ้าระวัง ดูแล สอดส่อง ป้องกันโรคโควิด-19 ในชุมชน ซึ่งรัฐบาลเห็นความสำคัญและมอบค่าตอบแทน อสม. โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา


ความคืบหน้าในขณะนี้ได้มีการหารือกับกรมบัญชีกลางแล้ว โดยจะเบิกจ่ายค่าป่วยการ อสม. จำนวน 7 เดือน ตั้งแต่มีนาคม - กันยายน 2563 เป็นเงิน 3,500 บาท และจะส่งเข้าบัญชีของ อสม. ในวันที่ 21 กันยายนนี้ หากสถานการณ์โควิด -19 เกิดขึ้นอีก รัฐบาลก็จะดูแลต่อเนื่อง 


นอกจากนั้นแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้มีบทบาทในการร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยดำเนินการ 2 เรื่อง คือ การขับเคลื่อนสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจผ่านการส่งเสริมฟ้าทะลายโจร เพื่อผลิตยาสมุนไพร และการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีใหม่ โดยพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเมืองสมุนไพร 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก อุดรธานี สุราษฎร์ธานี และสงขลา
 

แพทย์หญิงพรรณประภา กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การบรรจุข้าราชการใหม่จำนวน 45,684 อัตรา จะต้องบรรจุเสร็จสิ้นภายในกันยายนนี้ โดยจะต้องดำเนินการด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ และจากกรณีที่มีข่าวอ้างว่าช่วยบรรจุเป็นข้าราชการรุ่นโควิดได้ ขอย้ำว่าไม่เป็นความจริง อย่าหลงเชื่อ หากพบให้ดำเนินการถึงที่สุด ไม่มีการละเว้นโทษ

 

อสม.เตรียมเฮ สธ.พร้อมจ่ายเงินค่าตอบแทนโควิด 21 ก.ย.นี้

นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 เรื่องสำคัญคือ การดำเนินการให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ของโลกได้รับวัคซีนที่ต่างประเทศผลิตได้ และการพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ, การขับเคลื่อนระบบบริการปฐมภูมิให้คนไทยมีหมอประจำตัว 3 คน คือ หมอประจำบ้าน หมอสาธารณสุข หมอครอบครัว เพื่อลดความแออัดโรงพยาบาลและสร้างเสริมระบบสุขภาพคนไทย การสร้างระบบธรรมาภิบาลในกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณให้มีความคุ้มค่า 


"หากมีการทุจริตจะดำเนินการอย่างถึงที่สุดเช่นเดียวกับกรณีคลินิกชุมชนอบอุ่น ซึ่งขณะนี้ สปสช.ได้ยกเลิกสัญญาคลินิกที่พบการทุจริต พร้อมจัดหาหน่วยบริการรองรับ รับสมัครคลินิกชุมชนอบอุ่นเพิ่ม และเรื่องสุดท้ายคือการคุ้มครองประชาชนจากสารเคมีและสินค้าที่ทำลายสุขภาพ"