เตือน 28-30 ต.ค. รับมือ “พายุลูกใหม่”

27 ต.ค. 2563 | 12:52 น.

นายกฯเตือนประชาชนพายุลูกใหม่ ที่มีกำลังแรง เคลื่อนเข้าไทย 28-30 ตค.นี้ให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระมัดระวังการเดินทาง ดูแลชีวิตและทรัพย์สิน

วันที่ 27 ตุลาคม 2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์สภาพอากาศ จังหวัดและการบรรเทาสาธารณภัย เฝ้าระวังและ เตรียมพร้อมรับมือกับพายุลูกใหม่ ที่คาดว่ามีกำลังแรง ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัย 

 

ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่น “โมลาเบ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ก่อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 29-30 ตุลาคม 2563 โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง

 

โดย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในวันที่ 28 ตุลาคม 2563 มีดังนี้

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกาะติด “พายุ” ลูกใหม่ ก่อตัว ทะเลจีนใต้ 1 พ.ย.

เปิดไทม์ไลน์ เส้นทางพายุ “โมลาเบ”

เช็กด่วน ! พายุ"โมลาเบ" กระทบจังหวัดไหน

พายุไต้ฝุ่นโซเดล เข้าอีสาน 25-27 ต.ค. พายุลูกใหม่ จ่อเข้าไทย 29-31 ต.ค.

กรมอุตุฯ  ผวาพายุ “โมลาเบ”  ถล่มอีสานซ้ำ แรงกว่า “โซเดล”

พายุซัด เรือสินค้าล่ม ตู้คอนเทนเนอร์จมทะเล 14 ตู้

 

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด

 

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

นอกจากนี้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในวันที่ 29-30 ตุลาคม 2563 มีดังนี้

 

ภาคเหนือ: จังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

 

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

 

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

 

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และลมแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
       
นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า “นายกรัฐมนตรีได้กำชับและสั่งการให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่เตรียมรับมือและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายและผลกระทบกับประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน หากพื้นที่ใดคาดว่าจะได้ผลกระทบรุนแรงให้รีบแจ้งเตือน เช่น การยกสิ่งของขึ้นพื้นที่สูง หรือเตรียมอพยพหากจำเป็น เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสัญจรหากไม่จำเป็นเร่งด่วน 

 

นายกรัฐมนตรีขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลได้เฝ้าระวัง และสั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชม.”