นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ด้วย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้สั่งการผ่าน ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ติดตามแนวทางการให้ความช่วยเกษตรกรอย่างทั่วถึง ตลอดจนวางแผนการบริหารจัดการน้ำ โดยการผันน้ำส่วนเกินไปเก็บกักตามแหล่งน้ำต่างๆ ให้เพียงพอสำหรับทุกกิจกรรมในช่วงฤดูแล้งหน้า ด้วยการ กำหนดผู้รับผิดชอบ กำหนดพื้นที่เสี่ยง กำหนดทรัพยากรเครื่องจักรเครื่องมือ พร้อมปฏิบัติงานตลอด24ชั่วโมง
โดยเน้นย้ำให้ตรวจสอบความมั่นคงของอาคารชลประทานต่างๆ ให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพโดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด พิจารณาปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมกับพื้นที่สอดคล้องกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำไหลที่เข้าเขื่อน ควบคู่ไปกับการเก็บกัก โดยผันเข้าพื้นที่แก้มลิงหรือบ่อธรรมชาติ รวมทั้งเร่งระบายน้ำพื้นที่ท้ายน้ำและน้ำค้างทุ่งออกให้เร็วที่สุด
ด้าน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุ “โมลาเบ” ทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณเขาใหญ่อีกครั้ง วัดปริมาณฝนได้มากกว่า100 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำพระเพลิงเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีปริมาณน้ำประมาณ 168.63 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 108 % ของความจุอ่างฯ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ประมาณ 3.88 ล้าน ลบ.ม. และยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ได้ทำการระบายน้ำผ่านคลองธรรมชาติ และ Spillway รวมประมาณ102 ลบ.ม./วินาที หรือ 8.81 ล้าน ลบ.ม./วัน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนด้านท้ายเขื่อนรับมือกับสถานการณ์แล้ว
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อนลำพระเพลิง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนให้ประชาชน ห้างร้าน ที่อยู่ริมตลิ่งให้ขนของขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น และขอให้รับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่หมายเลขสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา