วันที่ 29 พ.ย. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำชับผู้ว่าราชการทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนไทยติดประเทศเพื่อนบ้าน
ไม่ว่าจะเป็น เมียนมา กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนติดตามการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายอย่างเร่งด่วน หลังพบว่ามีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ลักลอบเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ก่อให้เกิดความกังวลในความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ติดต่อด่วน เชียงราย ตามหาคนนั่งรถตู้คันเดียวกับหญิงติดเชื้อโควิด
แถลงการณ์ Grab ปมพบ "ผู้ติดโควิด" ใช้บริการที่เชียงใหม่
"หมอธีระ" เผยเคส "โควิดเชียงใหม่" สอนอะไรไทยบ้าง
สสจ.เชียงใหม่ ชี้เป้า 5 สถานที่กลุ่มเสี่ยงติดโควิดเชียงใหม่
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คำนึงถึงผลกระทบจากปัญหาที่จะตามมาจากการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นสำคัญ หากพบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการลักลอบเข้าเมือง จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีละเว้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อประชาชน ว่าแนวทางการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของไทยมีความรัดกุม ปลอดภัย และไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“นายกรัฐมนตรี ยังขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ตำรวจ ทหาร รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ร่วมกันทำงานอย่างเข้มแข็งนับแต่ตั้งช่วงต้นปี ในการป้องกันโรคโควิด-19 จนถึงขณะนี้ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก โดยผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่ล้วนพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ นายกรัฐมนตรี จึงขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจต่อของประชาชน”