"คนละครึ่ง" เชียงใหม่คึกคัก ยอดใช้จ่ายสะสมเกือบพันล้าน

30 พ.ย. 2563 | 21:50 น.

ไม่หวั่น"โควิดเชียงใหม่" ร้านค้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" เชียงใหม่แฮปปี้ เผยวันหยุดยาวมีนักท่องเที่ยว - ประชาชนทั่วไปแห่มาใช้สิทธิเพิ่มขึ้น ด้านธนาคารกรุงไทย ระบุ เฉพาะเชียงใหม่มียอดใช้จ่ายสะสมเกือบพันล้าน อยู่อันดับ 4 ของประเทศ

บรรยากาศการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะมีข่าวการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด -19 รายใหม่ ที่เดินทางจากท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ลักลอบมาทางพรมแดนธรรมชาติ จังหวัดเชียงราย และเดินทางต่อมายังจังหวัดเชียงใหม่ และขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ 


อย่างไรก็ตามบรรยากาศในจังหวัดเชียงใหม่ยังคงคึกคัก  โดยศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจของจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า จากการสอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ขายตามแหล่งท่องเที่ยว อาทิ  หมู่บ้านภูพิงค์ หน้าพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ พบว่า บรรยากาศในช่วงวันหยุดยาว 4 วันที่ผ่านมาถือว่าคึกคัก


 โดยส่วนหนึ่งมาจากโครงการคนละครึ่ง เพราะเดิมจากที่แทบไม่มีลูกค้าเข้ามาเลย ขายของได้วันละ 100 -200 บาท  แต่ตอนนี้ขายของได้วันละ 1,000 กว่าบาท หรือตามร้านอาหาร จากเดิมย่างไก่วันละ 3 ตัวยังขายไม่หมด แต่มาตอนนี้เพิ่มเป็นวันละ 20 กว่าตัว ลูกค้าเพิ่มขึ้นมาก


ขณะที่นักท่องเที่ยวจากจังหวัดระยองที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทราบข่าวการพบผู้ติดเชื้อโควิด -19  แต่เนื่องจากบรรยากาศของจังหวัดเชียงใหม่ที่อากาศหนาวเย็น สวยงาม จึงตัดสินใจมาเที่ยว ไม่ได้กลัวการติดเชื้อ เพราะป้องกันตัวเองได้ สวมหน้ากากอนามัยไปทุกครั้ง พกเจลล้างมือติดตัว จะอยู่เฉพาะกลุ่มตนเอง เว้นระยะห่างจากคนอื่น ๆ ก็จะทำให้ท่องเที่ยวได้สนุก 

 

ด้านข้อมูลของธนาคารกรุงไทย สาขาเชียงใหม่  เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่มีร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งรวม 41,000 ร้านค้า ส่วนยอดค่าใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งสะสมรวมเกือบพันล้านบาท  อยู่ในลำดับที่ 4 ของประเทศ 


ขณะที่ภาพรวมของทั้งประเทศนั้น ( วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 )  มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.5 แสนร้านค้า มียอดการใช้จ่ายสะสม 28,609 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 14,599 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 14,010 ล้านบาท 


ทั้งนี้ ประชาชนที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ขอให้เริ่มใช้สิทธิในการใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับจากวันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ


อย่างไรก็ตามธนาคารกรุงไทย ขอเตือนให้ระวังเรื่องการกระทำผิดด้วย เนื่องจากกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยมีการติดตามและตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ โดยได้ระงับสิทธิการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และระงับการจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการคนละครึ่งอย่างต่อเนื่อง