หญิงวัย 51 ปีที่สิงห์บุรีติดโควิด เหตุ การ์ดตกในที่ชุมชน

07 ธ.ค. 2563 | 11:18 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ธ.ค. 2563 | 12:43 น.

"สาธารณสุข" เผย เหตุหญิงวัย 51 ปีที่สิงห์บุรี ติดโควิด-19 เพราะใส่หน้ากากไม่ถูกต้องโดยใส่ไว้ใต้จมูก-ใต้ปากในที่ชุมชน

7 ธันวาคม 2563 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป พร้อมด้วย นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ และ พล.ต.จักรพงษ์ จันทร์เพ็งเพ็ญ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด 19 มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 บริเวณพื้นที่ด่านชายแดน และการรักษาผู้ป่วยโควิด 19

 

นพ.โสภณ ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการสอบสวนการติดเชื้อภายในประเทศของหญิงอายุ 51 ปี ที่จังหวัดสิงห์บุรีว่า ระหว่างโดยสารบนเครื่องบินนั้น ผู้ป่วยรายนี้นั่งห่างจากผู้ป่วย จ.พิจิตร และ กทม. 8 แถว มีการใส่หน้ากากซึ่งไม่น่าเป็นสาเหตุของการรับเชื้อ อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง พบว่า ทั้ง 3 ราย มีการสวมหน้ากากไม่ถูกต้อง โดยใส่หน้ากากไว้ใต้จมูกและปาก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผวา "เชียงราย" ตรวจพบ ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 6 ราย

"นายกฯ" เข้ม สั่งจัดการขบวนการลักลอบพาคนข้ามแดน

ผู้ว่าฯเชียงราย แจงพบติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 6 ราย "บิ๊กคลีนนิ่ง" 10 ธ.ค.นี้

 

ดังนั้น สถานที่รับเชื้อน่าจะเป็นพื้นที่นั่งรอก่อนขึ้นเครื่องซึ่งทางสนามบินได้ปรับระบบทำความสะอาด และได้ย้ำเตือนผู้โดยสารให้สวมหน้ากากให้ถูกต้อง ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม ตลอดเวลาที่อยู่ในสนามบิน

 

ขณะที่นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีความพร้อมดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 โดยกทม.และปริมณฑล รับผู้ติดเชื้อได้ 230-400 รายต่อวัน ทั้งประเทศรองรับได้ 1,000-1,700 รายต่อวัน มีเตียงสำหรับดูแลผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะมากกว่า 1 หมื่นเตียง

 

ส่วนเหตุการณ์ชายแดนใน3 จังหวัด คือ จ.เชียงราย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มีเตียงรองรับ 60 เตียง ขณะนี้มีผู้ป่วย 26 ราย ยังรองรับได้ และเตรียมเตียงจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงอีก 300 เตียง, จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์มี 51 เตียง และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยและเอกชนโดยรอบรองรับอีกกว่า 120 เตียง และ อ.แม่สอด จ.ตาก โรงพยาบาลแม่สอด มี 120 เตียง ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่รับมือได้

 

เช่นเดียวกับยา อุปกรณ์ เวชภัณฑ์หน้ากาก แอลกอฮอล์ล้างมือ บุคลากรทางการแพทย์ มีความพร้อมทั้งหมด สิ่งสำคัญ คือ ขอให้ผู้ป่วยให้ประวัติที่แท้จริงจะช่วยให้วินิจฉัยรักษาได้รวดเร็ว เนื่องจากการปกปิดทำให้คนรอบข้าง ครอบครัว และบุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยง และตรวจวินิจฉัยรักษาได้ล่าช้า สำหรับผู้ป่วยโควิด 19 เพศชายอายุ 70 ปี ที่โรงพยาบาลแม่สอดยังไม่เสียชีวิต ขณะนี้ยังใส่ท่อหายใจ ให้ยารักษา และรักษาแบบประคับประคอง ทำให้อาการดีขึ้น

ด้านพล.ต.จักรพงษ์ จันทร์เพ็งเพ็ญ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) กล่าวว่า ศปม.ได้ร่วมกับตำรวจ พลเรือน อาสาสมัคร และฝ่ายปกครอง ปฏิบัติงานสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองในพื้นที่เมืองหน้าด่าน โดยพื้นที่ชายแดนมีระยะทางยาวมากกว่า 2,400 กิโลเมตร ได้มีมาตรการเพิ่มเติม เช่น ตรวจจับด้วยกล้องวงจรปิด โดรน กล้องยูวีของกองทัพอากาศ การวางเครื่องกีดขวาง เพื่อจำกัดและยับยั้งการลักลอบเข้าผิดกฎหมาย และร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านช่วยสกัดกั้นหรือส่งข่าวแจ้งเบาะแส เพื่อสกัดกั้นทันเวลา และวางจุดตรวจสกัดกั้นตามเส้นทางที่คาดว่าจะลักลอบเข้าเมือง  รวมทั้งการตรวจสถานสถานประกอบการ โรงงานต่างๆ ขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นการลักลอบเข้าเมือง แจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1138, 1559 และ 191