31 มกราคม 2564 นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและแรงงานที่ถูกเลิกจ้างจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 กรมชลประทานได้จัดสรรงบประมาณปี 2564 วงเงิน 5,662 ล้านบาทสำหรับจ้างงาน 94,000 คน ได้รับค่าจ้างเฉลี่ยคนละ 13,294 บาท โดยงานที่จ้างจะดำเนินการจ้างเพื่อซ่อมแซม บำรุงรักษา ขุดลอก ปรับปรุง งานชลประทาน โครงการส่งเสริมการดำเนินงานอันเนื่องจากพระราชดำริ งานก่อสร้างแหล่งน้ำ ระบบน้ำเพื่อชุมชน แก้มลิง และการจัดการคุณภาพน้ำ
ล่าสุดไตรมาส 1 ปี 2564 มีการจ้างงานไปแล้ว 8,237 คน ประมาณ 8.76% ของเป้าหมายที่วางไว้ วงเงินที่จ้างงานประมาณ 109.49 ล้านบาท หรือประมาณ 1.93% ของงบประมาณที่ตั้งไว้
สำหรับหลักเกณฑ์การจ้างงานจะให้กับ 4 กลุ่ม ดังนี้
1.เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร หรือเกษตรกรในพื้นที่
2.สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำของกรมชลประทานในพื้นที่
3.ประชาชนผู้ใช้แรงงานทั่วไปในพื้นที่
4.หากแรงงานในพื้นที่ไม่พอ ให้พิจารณาจ้างเกษตรกรแรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง จากหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัดและลุ่มน้ำตามลำดับ
“กรมชลประทาน จะจัดสรรงบประมาณเพื่อจ้างงานในช่วงฤดูแล้งในช่วงที่เกษตรกรไม่สามารถเพาะปลูกได้ส่วนการระบาดของโควิด-19 อาจส่งผลให้มีคนตกงานจำนวนมาก มีแรงงานเกษตรกรที่เข้าไปรับจ้างในกรุงเทพฯ หรือเมืองอุตสาหกรรม ที่มีการหยุดงาน หรือโรงงานปิดกิจการ ร้านอาหารไม่สามารถเปิดได้ตามปกติ ทางกรมชลประทานก็จะประกาศเชิญชวนให้เข้ามาร่วมทำงานด้วยกัน หากคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ก็พร้อมรับเข้าทำงาน”
นายทวีศักดิ์ ยังกล่าวว่า สำหรับโครงการการจ้างงานเพื่อจ้างเกษตรกรประจำปี 2563 ภายใต้งบประมาณ 4,498 ล้านบาท จ้างแรงงานวงเงิน 2,713 ล้านบาท หรือ 60% ของงบประมาณที่ตั้งไว้แต่จ้างเกษตรกรทำงานได้ประมาณ 91,159 คน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือประมาณ 103% ของเป้าหมายที่วางไว้ที่จำนวน 88,838 คน แบ่งเป็น งบประมาณรายจ่ายประจำปีวงเงิน 4,248 ล้านบาท เป้าหมายจ้างเกษตรกรทำงานได้ 81,538 คน และงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2563 วงเงิน 250 ล้านบาท เป้าหมายจ้างเกษตรกรทำงานได้ 7,300 คน
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563 เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจ้างทำงานกับกรมชลประทาน เฉลี่ยมีรายได้ประมาณคนละ 29,770 บาท สำนักชลประทานที่มีการจ้างงาน มากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ สำนักชลประทานที่ 7 จ้างงานจำนวน 14,761 คน สำนักชลประทานที่ 5 จ้างงานจำนวน 9,161 คน และสำนักชลประทานที่ 8 จ้างงานจำนวน 8,148 คน
“หลักเกณฑ์การจ้างงานยังยึดเกณฑ์เดิมเหมือนทุกปี คือจ้างเกษตรกรในพื้นที่ หากไม่มีเกษตรกรร่วมโครงการ ก็ให้พิจารณาจ้างเกษตรกรแรงานในพื้นที่ใกล้เคียง จากหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด และลุ่มน้ำ ตามลำดับ”
สำหรับจังหวัดที่มีการจ้างแรงงานเพื่อซ่อมแซม บำรุงรักษา ขุดลอก ปรับปรุง งานชลประทาน ขุดลอกคูคลอง มากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ จ.อุบลราธานี จ้างแรงงานจำนวน 5,781 คน, จังหวัดเชียงใหม่ จ้างแรงงานจำนวน 5,377 คน และจังหวัดสกลนคร จ้างแรงงาน 3,938 คน ตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดี! กรมชลฯเปิดรับสมัครงานกว่า 80,000 อัตรา
กรมชลฯจ้างงาน 6 หมื่นคน ช่วยเกษตรกรสู้ภัยแล้ง-โควิด-19
อัดฉีดแล้ว 1.4 แสนล้าน ศก.เริ่มฟื้น จ้างงาน 4.3 แสนคน