ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 883,386,000 บาท ให้ อว.ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานในสังกัด จำนวน 70 แห่ง ดำเนินการโครงการ อว.สร้างงานระยะที่ 2 ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด - 19 แล้ว รวม 32,718 อัตรา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ อัตราค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ ก.ค.- ก.ย.2563 เพื่อสร้างงานรองรับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตและเสริมศักยภาพให้กับกำลังแรงงานสมัยใหม่ และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะในการทำงานในด้านต่างๆ ให้แก่แรงงานตามภารกิจเฉพาะของหน่วยดำเนินการภายใต้ อว. ที่จะดำเนินการในลักษณะการช่วยงานและการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของหน่วยงานใน อว.ที่ดำเนินการตามชุมชน ทั้งชุมชนเมืองและชุมชนชนบท
โครงการเฟส 2 นี้ คาดว่าจะช่วยให้ประชาชนที่ว่างงาน จำนวน 32,718 คน มีงานทำ และได้รับการพัฒนาทักษะในการทำงานในด้านต่างๆ ทางด้านวิชาการ เพื่อต่อยอดเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพต่อไปได้ เช่น ทักษะการวิเคราะห์และแก้ปัญหาชุมชน การพัฒนานวัตกรรมทางสังคม ทักษะทางวิทยาศาสตร์ และสังคมเฉพาะด้าน ทักษะการวิเคราะห์และจัดทำฐานข้อมูล เช่น ข้อมูลพื้นฐานของประชากร ด้านการเกษตร เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของแต่ละชุมชน และทักษะในการทำงานร่วมกับผู้ประการเอสเอ็มอี
ขณะนี้หน่วยจ้างงานทั้ง 70 แห่ง อยู่ระหว่างเปิดรับสมัครงาน ผู้ที่สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและติดต่อได้ที่สำนักงานบริหารโครงการตามนโยบาย โทร 0 -2610 -5330-5331 และเว็บไซต์ของหน่วยจ้างแต่ละแห่งซึ่งกำลังทยอยลงประกาศ
นอกจากนี้ ในวันที่ 16 - 17 มิ.ย.นี้ ยังได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการสร้างงานให้ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด - 19 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.ขอนแก่น ในโครงการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุโดยชุมชน ที่ทำการเทศบาลตำบลบ้านแฮด อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ “อว.สร้างงานระยะที่ 1” และจะประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีประเด็นหารือ คือ การร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมฐานราก ในโครงการจ้างงานของ อว.และโครง การ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาความยากจนตามนโยบายรัฐบาล และวันที่ 17 มิ.ย. จะไปมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการยุวชนอาสาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์และมอบสิทธ์เข้าร่วมโครงการยุวสตาร์ทอัพให้แก่กลุ่มนักศึกษาที่มีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจด้วย