จุรินทร์ ย้ำ“ปชป.”เน้นผลงาน ชูเอกภาพในพรรค

วันที่ 12 ก.ค. 2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) กล่าวถึงการสัมมนารัฐมนตรีและส.ส.ของพรรคที่จังหวัดระยอง ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงความเห็นกันอย่างเต็มที่ว่า เป็นเรื่องดีที่ทุกฝ่ายมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความเห็นการเมืองในบรรยากาศที่เป็นกันเอง และส่วนตัวคิดว่าจะหาโอกาสจัดให้มีการพบปะกันแบบนี้บ่อยขึ้น เพราะทุกคนช่วยกันระดมความคิดหาข้อสรุปร่วมกันในการพาพรรคไปข้างหน้า ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนมากขึ้นได้ ซึ่งข้อสรุปที่เห็นตรงกันคือคิดว่าประชาชนและสมาชิกพรรคทั้งประเทศก็อยากเห็นผลงานของพรรคที่ปรากฏเป็นรูปธรรมรวมถึงความเป็นเอกภาพภายในพรรค 

ขณะเดียวกันพรรคกำลังดำเนินการจัดตั้งตัวแทนประจำจังหวัด เพื่อให้พรรคสามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ครบทุกเขตตามกฎหมาย ตั้งเป้าทำให้ครบถ้วนภายในเดือนสิงหาคมนี้ และถือโอกาสพบปะเพื่อนสมาชิกภายในเวลาเดียวกัน 

นายจุรินทร์ยังกล่าวถึง กรณีที่มีกรรมการบริหารพรรคบางคน ไม่พอใจที่ในการสัมมนาครั้งนี้ว่าเรื่องนี้เป็นเพียงกระแสข่าว เนื่องจากไม่มีตัวตนของคนที่แสดงความเห็นชัดเจน แต่ทุกคนก็มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น หากมีเรื่องที่ยังไม่เข้าใจจะได้ชี้แจง และคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะฟังเหตุผลกันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นการสัมมนาระหว่างส.ส.และรัฐมนตรีของพรรควงหนึ่ง ก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริหารพรรคก็มีการประชุมไปแล้วอีกวงหนึ่ง และในการประชุมใหญ่คงได้พบพร้อมกันอีกวงหนึ่ง หากบุคคลใดเกิดความไม่เข้าใจก็จะทำความเข้าใจ 

              
สำหรับกรณีที่พรรคก้าวไกลประกาศความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำทั้ง 2 ด้าน คือป้องกันพื้นที่ที่มีผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว และลงพื้นที่ที่ยังไม่มี ซึ่งคิดว่าทุกพรรคการเมืองต้องทำ ย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า และพยายามป้องกันผู้แทนราษฎรที่ได้อยู่แล้วให้ได้ต่อไป และรุกคืบในพื้นที่ที่ไม่มีผู้แทนในทุกภาค รวมถึงกรุงเทพมหานครก็มีการเดินหน้าเป็นลำดับ มีการกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์ทั้งหมดไว้ ซึ่งภาคอีสานจะมีการลงพื้นที่รวมถึงภาคเหนือด้วย โดยกำหนดเป้าหมายพื้นที่ไว้เกือบจะร้อยละ 70 -80 ของทุกภาคแล้ว ว่าใครจะเป็นผู้สมัคร

ส่วนกรณีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ สก. ย้ายพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้สอบถามนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.พรรค บอกว่ามีส่วนหนึ่งได้ย้ายออกไปแล้วก่อนที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เข้ามา แต่พยายามหาคนใหม่เข้ามาทดแทน ซึ่งมีความคืบหน้าไปกว่า ร้อยละ 70  รวมถึงการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. มีการดำเนินการตามลำดับต่อไป