พรรคกล้าธรรม นำโดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และสส.จำนวน 20 คน ที่ถูกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขับออก ร่วมแถลงข่าวที่รัฐสภา วันที่ 19 ธ.ค. 67 เพื่อเข้าสังกัดพรรคกล้าธรรมอย่างเป็นทางการ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นฤกษ์ดียามดี ซึ่งตามที่เป็นข่าวมาโดยตลอดถึงกลุ่มของพวกเราที่เคยสังกัดอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ เรื่องนี้มีพี่น้องสื่อมวลชนหลายสำนักที่พยายามจะติดต่อตน ตนขอกราบอภัยที่ไม่ได้รับสาย ไม่อยากให้ข่าวที่ไม่พร้อมกัน อยากจะแถลงข่าวให้ได้รับทราบพร้อมกัน พวกเราเองจึงตั้งกลุ่มว่า “มาตามนัด” ในนามของส.ส. 20 คน และถือฤกษ์ดียามดีในวันนี้ที่จะแถลงให้ทราบ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวเท้าความว่า ตั้งแต่การรวมตัวกันตั้งรัฐบาล ได้นายกรัฐมนตรีท่านใหม่บริหารบ้านเมือง พวกเราประกาศชัดเจนว่าจะสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ในเรื่องของฝ่ายกฎหมาย การเข้าเป็นสมาชิกพรรคใหม่ สังกัดใหม่ยังไม่สามารถทำได้จนกระทั่งมีมติชัดเจนให้ขับผมออกจากพรรคพลังประชารัฐ
กระบวนการทางกฎหมายเป็นที่ยุติว่า คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ พร้อม สส. มีมติชัดเจน 3 ใน 4 ขับพวกตนของจากพรรคพลังประชารัฐ และเมื่อวานช่วงบ่าย ทั้ง 20 คน พร้อมกันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรม
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้แจ้งประธานสภาฯ เรียบร้อยแล้วว่ าออกจากพรรคพลังประชารัฐ และขั้นตอนต่อไปในขณะนี้ เรามีสมาชิก 24 ชีวิตทั้งที่ย้ายมาเก่าและใหม่ในพรรคกล้าธรรม
“เรายังมีอีกหลายชีวิต แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องนำเสนอหรือชี้แจงตอนนี้ ดังนั้น วันนี้อยากจะฝากว่าเราทั้ง 24 ชีวิตที่ยืนอยู่บนเวที ณ เวลานี้ เราคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสกัดพรรคกล้าธรรม”
ก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัส จะกล่าวติดตลกกับนางนฤมล ว่า “ไม่ทราบว่าท่านหัวหน้าจะยินดีรับผมไหมครับ”
ด้านนางนฤมล กล่าวว่า พวกเราเป็นกลุ่มการเมืองที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มต้น มีอุดมการณ์เดียวกัน ทางพรรคได้รับมอบหมาย ให้ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราก็จะเดินหน้าทำงานเพื่อสนองนโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะใช้การตลาด นำนวัตกรรม เสริมเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร ทุกจังหวัด ทุกเขตไม่ใช่เฉพาะแค่เขตที่เรามี สส.
เมื่อถามว่ามีสส.ย้ายเข้าพรรคกล้าธรรมกี่คน ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า “ตัวเลขคร่าวๆ ที่คุยกันไว้มากกว่า 30 คน ถ้ารวม 24 คน ที่ยืนอยู่บนเวที แต่ขอเก็บความลับก่อน”
เมื่อถามว่าจากฝ่ายรัฐบาล หรือ พรรคฝ่ายค้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เอาเป็นว่าเป็นสส. ณ เวลานี้
เมื่อถามว่ามีจำนวนสส.เท่านี้ ถือว่ามีอำนาจต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องการต่อรอง ตนว่าไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สาระสำคัญคือ เราจะทำให้รัฐบาล ซึ่ง ณ เวลานี้มีพรรคร่วมรัฐบาลที่จำทำหน้าที่แต่ละกระทรวง เพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างไร เพื่อให้ประชาชนหลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเราทั้ง 24 คน หลายคนเป็น สส. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ในแต่ละพื้นที่ เราก็นำเสนอผ่านสภาฯ บางเรื่องเราก็ประสานไปยังกระทรวงต่างๆได้
“อยากฝากว่า พรรคกล้าธรรมไม่ใช่เพิ่งเกิด เรามาจากพรรคเศรษฐกิจไทย และสมาชิกของพวกเราส่วนใหญ่ ก็เป็นคนเก่าๆ หลายคนเป็นสส.สมัยที่ 2 แล้ว และเราจะไม่ทำอะไรแบบเก่าๆ ภายใต้การนำของนางนฤมล ซึ่งผมจะเป็นที่ปรึกษาให้นางนฤมล รวมทั้งจะมีการปรับโครงสร้างใหม่หมด เราจะนำพาในสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนฐานรากที่เป็นส่วนสำคัญ”
ร.อ.ธรรมนัย ยังกล่าวถึงท่าที่ต่อพรรคพลังประชารัฐว่า “ผมยืนยันตลอดเวลา ถ้าสื่อมวลชนจำคำพูดของผมได้ ว่า ผมจะออกมาโดยสันติ โดยไม่ทะเลาะกับใคร และจะทำงานที่สร้างสรรค์มากกว่าทำลายซึ่งกันและกัน เราจะทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ทำการเมืองแบบเก่าๆ”
เมื่อถามว่าหากมีการ ปรับ ครม. ร.อ.ธรรมนัส จะมีโอกาสเอาตำแหน่งรมว.เกษตรฯ กลับมาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเลยจุดนั้นมาแล้ว และไม่เกิดความอยากที่จะเป็นอะไร
“ณ เวลานี้เราส่งตัวแทนเป็นรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นนางนฤมล นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ ต่างก็ทำงานในกระทรวงเกษตรฯ ตอบโจทย์ และเมื่อวาน เราเพิ่งลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม”
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า “ที่ถามว่าอยากเป็นนู่นเป็นนี่หรือไม่ ถ้าได้เป็นก็เป็น ถ้าไม่ได้เป็นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ฉะนั้น พวกเราทั้ง 24 ชีวิต ของการเป็นสส. เราจะทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติให้ดีที่สุด” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่ามีสส.จากพรรคพลังประชารัฐ ติดต่อมาบ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “24 ชีวิตกับ 20 ชีวิตเราเป็นพี่น้องกัน เราไม่นำเอาความแตกแยกเข้ามาสู่การเมืองเด็ดขาด เมื่อสักครู่ก็เจอ เรายังคุยกันเป็นเรื่องปกติ ส่วนคนที่จะมาร่วมนั้น เมื่อเวลาสุกงอมก็คงจะเปิดตัว”
ส่วนที่มีการมองว่าพรรคกล้าธรรมเป็นอะไหล่ของพรรคเพื่อไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ณ เวลานี้เราคือ พรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน หากพรรคใหญ่พรรคแกนนำ มีนโยบายอย่างไรที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเราเห็นด้วย
“ไม่ได้คัดค้าน ไม่ใช่มีอะไรก็คัดค้านตลอด ไม่เอา ผมไม่ชอบหลอกคนอื่น พรรคร่วมรัฐบาลควรจะมีการคุยกันก่อน ทุกครั้งที่มีวาระสำคัญที่เข้าครม.หรือสภาฯ พรรคไหนไม่เห็นด้วยบ่อยๆ ก็ควรจะแยกออกไป เราเห็นความเจริญของบ้านเมืองเป็นหลัก เราไม่คัดค้าน และเอาไปแอบอ้างอะไรเด็กขาด เรามีหัวหน้าพรรคเป็นสุภาพสตรี พร้อมคุยกับทุกฝ่าย” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามถึงการสู้ศึกเลือกตั้งในสมัยหน้า ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในเวทีเลือกตั้งต้องสู้ให้เต็มที่เพื่อให้ลูกพรรคชนะ โดยมีพื้นที่ที่เล็งว่าจะได้สส.เพิ่ม เช่น สุราษฎร์ธานี กำแพงเพชร ราชบุรี
เมื่อถามย้ำว่าจะฮุบพื้นที่ของสส.ของพรรคพลังประชารัฐมาทั้งหมดหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ไม่พูดแบบนั้น แต่คนที่ได้คะแนน 20,000 คะแนนขึ้นไปตอนนี้อยู่กับเรา”
เมื่อถามว่ากลัวการเอาคืนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เราเป็นนักการเมือง ต้องทำงานสร้างสรรค์ สไตล์ผมไม่ทำใครก่อน ใครทำผม ผมเอาคืน”
เมื่อถามว่าจะทำงานกับพล.อ.ประวิตรได้อยู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “อย่าพูดเรื่องอนาคน ปัจจุบันทำ 24 ชีวิตให้ดี”