การลาออกจากคณะรัฐมนตรี ของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยลูกทีม “4 กุมาร” ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาฯ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกฯ นำไปสู่การเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม “ปรับใหญ่ ครม.” จากรัฐบาล “ประยุทธ์ 2/1” สู่ “ประยุทธ์ 2/2” โดยไม่จำกัดเพียงแค่ 4 เก้าอี้รัฐมนตรี แต่จะมีการสลับปรับเปลี่ยนหลายตำแหน่ง ทั้งในโควตาพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำหรับ 5 ตำแหน่ง ที่ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรี ผู้กำกับนโยบายแน่นอนประกอบด้วย
1.รองนายกรัฐมนตรี ที่จะมาแทน นายสมคิด ว่ากันว่า นายกฯ ได้ทาบทามให้ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย อดีตเลขาธิการ ก.ล.ต. ให้มาเป็นรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ แต่ได้ปฏิเสธเพราะติดปัญหาบางประการ
2. รมว.คลัง เป็นที่แน่ชัดว่านายกฯได้ทาบทาม นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย มาดำรงตำแหน่ง โดยมีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชอบแนวคิดนายปรีดี มานาน โดยเฉพาะแนวคิดการจัดการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) การแก้ปัญหาหนี้เสียในระบบ การดูแลค่าเงิน ซึ่งเป็นนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญอย่างมาก
3.รมว.พลังงาน มีชื่อของ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรมช.คมนาคม ในสมัยรัฐบาล “ประยุทธ์ 1” และประธานคณะกรรมการ โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี หรือ GPSC ธุรกิจโรงไฟฟ้า ในเครือ ปตท. มาดำรงตำแหน่ง ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ พยายามผลักดันนายสุริยะ จึงรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร มาดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่การฟอร์มทีมครม.ครั้งแรก มาครั้งนี้ก็มีแนวโน้มสูงที่จะ “วืด” อีก ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังและนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการต่างก็ต้องการตำแหน่งนี้เช่นกัน
เพราะกระทรวงพลังงานเป็นกระทรวงเดียวที่มีแผนโครงการชัดเจนในการประมูลด้วยวงเงินนับแสนล้านบาท ไม่ว่าการประมูลปิโตรเลียมรอบ 23 โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกกะวัตต์ นำร่อง 100 แห่ง
4.รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่มีกระแสข่าว ศ.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หมายตาไว้ แต่อาจจะ “วืด” เพราะน่าจะต้องสลับโควตากับพรรคร่วมรัฐบาล
5.รมว.แรงงาน พรรครวมพลังประชาชาติไทย เสนอขอเปลี่ยนตัวจาก ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็น นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ โดยได้สงชื่อนายเอนกไปให้นายกฯ แล้ว
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นโควต้า “คนนอก” ของนายกฯ รอบนี้น่าจะมีการเปลี่ยนจาก นายดอน ปรมัตถ์วินัย ไปเป็นคนอื่น
นอกจากนั้น มีความพยายามจากพรรคพลังประชารัฐในการผลักดันให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เพื่อดูแลผู้ว่าราชการจังหวัด และเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น การเลือกตั้งทั่วไป หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง แทนที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ดำรงตำแหน่งนี้มาแล้วร่วม 6 ปี โดยจะสลับ พล.อ.อนุพงษ์ มาเป็น รองนายกฯ เพื่อดูแลงานตำรวจและความมั่นคง แต่ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้ออกมาระบุแล้วว่าพล.อ.ประวิตร ยังอยู่ที่เดิม
ขณะเดียวกัน ตำแหน่ง รมช.กลาโหม ที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล เป็นโควต้า “คนนอก” ที่มีกระแสการปรับเปลี่ยนเช่นกัน
ด้านพรรคร่วมรัฐบาลนั้น มีกระแสข่าวว่า จะเปลี่ยนรัฐมนตรีเช่นกัน โดยพรรคภูมิใจไทย น่าจะมีการเปลี่ยนเก้าอี้ รมช.พาณิชย์ จากนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล มาเป็น นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เจ้าของตลาดศรีเมือง ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
สำหรับพรรคพลังประชารัฐนั้นผู้จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีประกอบด้วย นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3593 วันที่ 22-25 กรกฎาคม 2563