ชำแหละ ม็อบเยาวชนปลดแอก ข้องใจมีเบื้องหลัง

22 ก.ค. 2563 | 11:55 น.

 

หลังวิกฤติโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในประเทศไทย ได้คลี่คลายลงการ ชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่เคยชุมนุมขับไล่รัฐบาลก่อนเกิดสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด ก็ได้หวนกลับมาเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง

 

เป็นการเคลื่อนไหวชุมนุมในนามของ กลุ่มเยาวชนปลดแอก-FreeYouth และสหภาพนักเรียนนิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) จัดกิจกรรม “ไม่ทนอีกต่อไป” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา  

 

ขณะที่ตามต่างจังหวัดก็มีการชุมนุมของนักศึกษา ประชาชนทั่วไป ทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดอุบลราชธานี   

 

ข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาชนปลดแอกมี 3 ข้อ คือ 

 

1. รัฐบาลต้องประกาศยุบสภา เพราะรัฐบาลล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19” รัฐบาลได้ ประกาศภาวะฉุกเฉิน และออกมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้มีคนตก งานและขาดรายได้เป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลก็มิได้เยี่ยวยาอย่างถ้วนหน้าและทั่วถึง  

 

2. หยุดคุกคามประชาชน โดยอ้างว่ามีการคุกคามทั้ง ทางกายภาพและทางจิตวิทยายังคงดำเนินต่อไป ไม่ต่าง
จากเมื่อสมัยที่ คสช.ยังมีอำนาจอยู่ 

 

3. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยอ้างว่า มีที่มาที่ไม่ชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย เพราะคณะผู้ร่างไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน เนื้อหาของรัฐธรรมนูญก็เป็นไปเพื่อรักษาระบอบเผด็จการในคราบประชาธิปไตย 

 

ภายหลังการชุมนุมได้มีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์และวิเคราะห์การชุมนุมดังกล่าว

 

ไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)  วิเคราะห์ในหัว ข้อ “ข้อสังเกตเกี่ยวกับม็อบ 18 กรกฎา” ระบุว่า 

 

1. การใช้เสื้อ การใช้แสง เหมือนม็อบฮ่องกง 

 

2. โซเชียลในประเทศ เป็นโซเชียลที่เป็นคู่กรณีกับโซเชียลเชียร์ลุง

 

3. Social ต่างประเทศ ที่ออกหน้ามากคือ BBC ไทย voa และประชาไทย 3 รายนี้ปรากฏตัวขึ้น คนไทยทั้ง ประเทศก็รู้แล้วว่า อะไรเป็นอะไร ที่สำคัญคือ คนไทยทั้งประเทศ จำฝังใจกันทุกคนว่า อังกฤษคือนักล่าอาณานิคมที่เคยย่ำยียึดดินแดนประเทศ ไทยมากที่สุด ตอนนี้เปิดหน้ากลับมาเอเชียอีกแล้ว 

 

4. องค์กรของต่างชาติ ยืนกำกับการอยู่ข้างหลัง และบางองค์กร ของคนไทยที่ขาย ตัวให้กับต่างชาติ รับเงินจากหน่วยงานของรัฐสภาสหรัฐฯ มาบ่อนทำลายชาติเป็นประจำ ก็ปรากฏตัวให้เห็น ว่าเป็นเจ้ากี้เจ้าการด้วย 

 

ชำแหละ  ม็อบเยาวชนปลดแอก ข้องใจมีเบื้องหลัง

 

“ดูกันไปก็แล้วกัน ก็จะยิ่งเห็นชัดว่า ฮ่องกงโมเดลกำลังนำมาใช้กับประเทศไทย ไม่มีวันสำเร็จครับ เพราะคนไทยไม่นิยมอังกฤษเหมือนกับคนฮ่องกงบางพวก” นายไพศาล ระบุ

 

 

ด้าน นันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ชี้ว่า การชุมนุมของเยาวชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คนชุมนุมไม่ถึงกับหรอมแหรม แต่ไม่มากอย่างที่แกนนำตั้งใจ? 

 

นี่ไม่ใช่การชุมนุมทาง การเมืองครั้งแรกของกลุ่มนี้ แต่มันจุดไม่ติด คนที่ร่วมมีแต่หน้าแก่ๆ คุ้นหน้าเป็นแขกประจำรายการ จะเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ยุบสภาก็ว่าไป 

 

ประเด็นสำคัญที่ต้องถาม คือ ตกลงเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย หรือจะต่อต้านสถาบัน ทำไมปล่อยให้ผู้มาร่วมชุมนุมถือ ป้ายต่อต้านสถาบันชัดเจนหลายคน หากไม่รู้เห็นเป็นใจ ไม่ใช่การชุมนุมต่อต้านสถาบัน 

 

“การ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมต้องห้ามปราม ห้ามถือป้ายต่อต้านสถาบันหรือกันออกจากพื้นที่ชุมนุม ไม่ต้องพูดถึงการแจกพิซซ่า 112 กล่องจะมีนัยอะไร ความชอบธรรมในการชุมนุมหมดสิ้นทันที ที่มีการต่อต้านสถาบันในพื้นที่ชุมนุม” อดีตรองผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ระบุ

 

ส่วน สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ตอบข้อเรียกร้องที่ มีถึงรัฐบาลว่า  

 

1. เรียกร้องให้ยุบสภา โดยให้เหตุผลว่าแก้ปัญหาโควิดไม่ได้ ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี ขอตอบว่าน้องๆ ต้องแยก แยะว่า สภาฯกับฝ่ายบริหารคนละส่วนกัน ฝ่ายบริหารคือรัฐบาลที่กำลังแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ประเทศเราแก้ปัญหาโควิดได้ดีมาก จนทั่วโลกชื่นชมและยอมรับ

 

เมื่อไวรัสนี้มาทำให้เดือดร้อนไม่สามารถติดต่อ ทำมาค้าขาย เศรษฐกิจจึงหยุดชะงักทั่วโลก รัฐบาลจึงได้มีมาตรการต่างๆ ในการดูแลประชาชน ที่เร่งด่วนคือรีบเยียวยา ในหลายโครงการดูแลประชาชนทุกสาขาอาชีพเต็มที่  

 

“ที่น้องนักศึกษาอยากให้ยุบสภานั้น ขณะนี้สภาก็ทำหน้าที่ออกกฎหมาย ตรวจสอบฝ่ายบริหาร ตรวจสอบการใช้งบประมาณ ในเมื่อสภาฯ ก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างปกติ ยังไม่เกิดความเสียหายหรือผิดพลาดหรือเกิดความรุนแรงใดๆ ในสภา เราไม่ควรผลักภาระไปให้ประชาชนต้องมาเลือกตั้งใหม่ และพี่ก็ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลใหม่จะถูกใจน้องๆ นักศึกษาหรือไม่”

 

 

ข้อ 2 หยุดคุกคามประชาชน ต้องถามกลับน้องๆ นักศึกษาว่า รัฐบาลคุกคามใคร รัฐบาลไม่เคยคิดคุกคามแม้มี “พรก.ฉุกเฉิน” ก็ยังเห็นหลายคนออกมาเคลื่อนไหวโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และที่ผ่านมามีแต่กลุ่มที่เห็นต่างบางคนบางกลุ่มที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลเท่านั้น

 

ข้อ 3 การเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากบอกน้องๆ ว่า สภาฯกำลังศึกษาแนวทางแก้ไขอยู่ โดยมีคณะกรรมาธิการฯ ที่สภาตั้งขึ้นมาจากทุกพรรคการเมือง ทั้งซีกฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล รวมถึงผู้ทรงวุฒิที่สภาฯ เสนอชื่อมา ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนอยู่แล้ว อยากให้แก้ประเด็นอะไรบ้าง ก็ติดต่อคุณพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานกมธ. หรือคณะกมธ.ได้  

 

นายสุภรณ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” พี่ต้องขอร้องให้มีสติให้มั่น อย่าได้เอาข้อมูลข่าวสารผิดๆ และบิดเบือนมาโจมตีรัฐบาลและนายกฯ อย่าไปรับข้อมูลมาจากบางพรรคบางกลุ่มการเมือง แล้วมาเคลื่อนไหวกดดันโจมตีรัฐบาล เพราะคนกลุ่มนั้นบางคนขาดความชอบธรรมในทางการเมืองแล้ว 

 

พร้อมฝากข้อคิดว่า “ขอน้องๆ อย่าตกเป็นเครื่องมือให้ใครในการที่จะทำให้ประเทศไทยแตกแยก ถอยหลังลงคลอง เหมือนประสบ การณ์ในอดีต ที่พี่ๆ เคยทำผิดพลาดมา มันเป็นบทเรียนอันแสนเจ็บปวด ที่ไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซํ้ารอย ไม่อยากให้ประเทศชาติเสียหายไปมากกว่านี้” 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,594 หน้า 10 วันที่ 23 - 25 กรกฎาคม 2563