คดีบอสอยู่วิทยา หรือ บอสทายาทกระทิงแดง ยังคงได้รับความสนใจและเกิดกระแสวิพากวิจารณ์จากสังคมเป็นวงกว้าง รวมถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยกับประชาชนสะท้อนความเห็นผ่านไลฟ์สดจากจังหวัดพิษณุโลกในรายการ “ก้าวหน้า Talk : คุณถาม เราตอบ” โดยนายธนาธร ประธานคณะก้าวหน้า ระบุตอนหนึ่งว่า คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา อดีตผู้ต้องหาคดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อ 8 ปีก่อน ที่ล่าสุดอัยการเพิกถอนคำสั่งฟ้องทั้ง 5 คดีนั้น
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าประเทศไทยเป็นที่ที่น่าอยู่มากสำหรับ VIP หรือคนรวยและคนมีอำนาจแต่สำหรับคนธรรมดาคนที่หาเช้ากินค่ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสินทรัพย์"อยู่วิทยา" รวย 6.6 แสนลบ. ห้าปีโตเท่าตัว
"บอส อยู่วิทยา"เปิดหนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้อง
คดีบอสอยู่วิทยา คาใจ ตำรวจไม่โต้แย้งอัยการไม่สั่งฟ้อง
กังขาไม่สั่งฟ้องคดี "บอส อยู่วิทยา" ทายาทกระทิงแดง
ประเทศนี้ไม่มีความเป็นธรรมสำหรับพวกเขา นี่คือ สองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมที่ชัดเจน
นายธนาธร กล่าวต่ออีกว่า ความสำคัญของกระบวนการยุติธรรม คือ การเป็นหลักประกันของความเสมอภาคและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคมแต่ถ้าระบบยุติธรรมของสังคมไหนล่มสลายไปแล้ว สังคมนั้นจะไม่มีที่พึ่งและประชาชนจะไม่มีทางออก ในวันที่ศรัทธาในองค์กรทางการเมืองทั้งหมดเสื่อมลง อย่างน้อยที่สุดหากกระบวนการยุติธรรมยังศักดิ์สิทธิ์อยู่ คนจะยังมีความหวัง แต่ถ้าสังคมสูญสิ้นซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม ความขัดแย้งจะหาทางออกโดยสันติไม่ได้
"นั่นคือสิ่งที่น่ากลัว เมื่อเราเอาความยุติธรรมมาถือฝักฝ่ายทางการเมือง มาทำให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง อภิสิทธิ์ชนในสังคมไทยไม่ต้องรับผิดรับชอบกับการกระทำของพวกเขา แล้วปล่อยให้คนเล็กคนน้อยติดคุกติดตาราง อันนี้น่ากลัวมาก ก็หวังว่ากรณีนี้จะเป็นกรณีที่พิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาลชุดนี้ ว่ารัฐบาลชุดนี้จะเอาจริงเอาจังกับการหาคนผิดมาลงโทษจริงหรือไม่" นายธนาธร กล่าว
สำหรับคดีนี้นายวรยุทธ อยู่วิทยา ถูกระบุว่า อยู่ในรถเฟอร์รารีคันที่พุ่งชนดาบตำรวจวิเชียร ที่ปฏิบัติหน้าที่บนรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนสุขุมวิท จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 ซึ่งแต่เดิมนายวรยุทธถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 5 ข้อหา
1.ข้อหาเมาแล้วขับ ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง
2.ขับรถเร็วเกิน หมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556
3.ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย หมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556
4.ชนแล้วหนี หมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2560
5.ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีกำหนดจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2570 หรืออีกประมาณ 7 ปี แต่สุดท้ายอัยการกลับไม่ฟ้องในข้อหานี้ด้วย