คดี"บอส อยู่วิทยา" ม.ชื่อดังร่วมกระหน่ำ "อัยการ-ตำรวจ"

หลังจากที่มีหลายหน่วยงานออกแถลงการณ์กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา “บอส อยู่วิทยา” หรือ บอสกระทิงแดง เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตอบคำถามและสร้างความกระจ่างชัดให้เกิดขึ้นทั้งจากแถลงการณ์คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งยังพบว่า มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ออกแถลงการณ์คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ กรณีการดำเนินคดีอาญาต่อนายวรยุทธ อยู่วิทยา และผลของคดี เช่นกัน โดยใจความระบุว่า

 

ตามที่ปรากฏว่า มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาต่อนายวรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่งถูกกล่าวหาและ ตั้งข้อหาเป็นคดีอาญารวม 5 ข้อหาตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และตามประมวลกฎหมายอาญา และปรากฏผลของคดี ดังนี้

(1)ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น (พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง)

(2)ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราความเร็วที่กฎหมายกำหนด (คดีขาดอายุความ)

(3)ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินฯ (คดีขาดอายุความ)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

“บอส อยู่วิทยา” ปลุกสังคมร่วมหาทางออกนำคดีขึ้นสู่ศาล

"แรมโบ้"ฉะ"ธนาธร"พูดตามใจปากปมอัยการไม่ฟ้อง"บอส อยู่วิทยา"

นายกฯไม่ตอบปม.อสส.ไม่ฟ้อง "บอส อยู่วิทยา" ชี้เป็นวันมงคล 

พลิกปูม “เนตร นาคสุข” รองอสส.คนสั่งไม่ฟ้องคดี“บอส อยู่วิทยา”

 

(4)ขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินโดยไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือพร้อม ทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันทีฯ (คดีขาดอายุความ)

(5)กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง)

ซึ่งจากการดำเนินคดีและผลของคดีอาญาดังกล่าวข้างต้น ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เคลือบแคลงสงสัย สร้างความไม่พอใจต่อสาธารณชนอันมีผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศอย่าง เป็นที่ประจักษ์และเป็นวงกว้างดังเป็นที่รับทราบอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเกิดจากบุคลากรส่วนน้อยของกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น แต่จนถึงปัจจุบันหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวยังไม่ได้ชี้แจงถึงขั้นตอน รายละเอียดและเหตุผลของการดำเนินคดีและผลของคดีดังกล่าวต่อสาธารณชนแต่อย่างใด

 

เมื่อการอำนวยความยุติธรรมเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ในการพัฒนาประเทศในการบริหารกระบวนการยุติธรรมของประเทศจึงต้องมุ่งสู่การเสริมสร้างสังคมนิติธรรมด้วยกระบวนการยุติธรรมที่มี ประสิทธิภาพและเอื้อให้ทุกภาคส่วนได้รับความเป็นธรรมอย่างเสมอภาค ปราศจากการเลือกปฏิบัติ ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ

 

ดังนั้น ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตบัณฑิตทางด้านนิติศาสตร์ คณาจารย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ดังมีรายนามข้างท้าย จึงขอเรียกร้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการชี้แจงถึงขั้นตอน รายละเอียดและเหตุผลของการดำเนินคดีและผลของคดีทั้ง 5 ข้อหาข้างต้นให้ สาธารณชนทราบโดยเร็ว

รายชื่อคณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ 

1.รองศาสตราจารย์ ดร.กรกฎ ทองขะโชค

2.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศุภวีร์ เกลี้ยงจันทร์

3.ผู้ช่วยศาสตราจารย์จิรนันท์ ไชยบุปผา

4.ผู้ช่วยศาสตราจารย์กฤษฎา อฤินวฤาวรกุล

5.ผู้ช่วยศาสตราจารย์เจษฎา ทองขาว

6.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธีรยุทธ ปักษา

7.ผู้ช่วยศาสตราจารย์อานนท์ ศรีบุญโรจน์

8.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปพนธีร์ ธีระพันธ์

9.ผู้ช่วยศาสตราจารย์กรรณภัทร ชิตวงศ์

10.อาจารย์ ดร.อุกฤษฎ์ มูสิกพันธุ์

11.อาจารย์ ดร.จิดาภา พรยิ่ง

12.อาจารย์หทัยกาญจน์ กําเนิดเพชร

13.อาจารย์ศิริชัย กุมารจันทร์

14.อาจารย์นฤมล ฐานิสโร

15.อาจารย์วีณา สุวรรณโณ

16.อาจารย์ริญญาภัทร์ ณ สงขลา

17.อาจารย์มาตา สินดํา

18.อาจารย์ชลีรัตน์ มเหสักขกุล

19.อาจารย์เกริกเกียรติ ทิพย์ชัย

20.อาจารย์เอกราช สุวรรณรัตน์

21.อาจารย์กัญญารัตน์ สวัสดิวงศ์

22. อาจารย์ภานุวัฒน์ ปานแก้ว

23.อาจารย์วิรัตน์ นาทิพเวทย์

24.อาจารย์อจิรวดี เหลาอ่อน

25.อาจารย์สุมัลลิกา ดาวสุวรรณ