23 สิงหาคม 2563 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อกรณี “การชุมนุมประท้วง” ของนักศึกษา ณ วันนี้” จำนวนทั้งสิ้น 197,029 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 16-21 สิงหาคม 2563 เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีที่คณะประชาชนปลดแอก ประกาศ 3 ข้อเรียกร้องสำคัญ คือ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภา และต้องหยุดคุกคามประชาชน จนมีการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนมากขึ้น สรุปผลได้ดังนี้
1. ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ “การชุมนุมประท้วงของนักศึกษา ณ วันนี้”
อันดับ 1 เป็นการเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย 59.11%
อันดับ 2 ต้องไม่จาบจ้วงสถาบัน 41.76%
อันดับ 3 ห่วงเรื่องความปลอดภัย/อาจมีผู้ไม่หวังดี 40.41%
อันดับ 4 ผู้เกี่ยวข้องควรรับฟัง 40.10%
อันดับ 5 มีผู้อยู่เบื้องหลัง 38.90%
อันดับ 6 เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออก/แสดงความคิดเห็น 33.79%
อันดับ 7 สร้างความวุ่นวาย/แตกแยก 28.64%
อันดับ 8 เกมการเมือง 28.29%
อันดับ 9 เป็นการแสดงความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการปฏิรูประเทศ 26.53%
อันดับ 10 ต้องการเรียกร้องเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น/แสดงจุดยืน 26.48%
ข่าวเกี่ยวข้อง
อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ เตือนพวกเห่อฝรั่ง ตะวันตกกำลังล่มสลาย
โพลเผย ปชช.หวั่นม็อบปลดแอกบานปลายเกิดความรุนแรง จี้นายกฯฟังปัญหาด้วยตนเอง
แก้รธน. 2 ปีเสร็จ พรรคร่วมรัฐบาลยื่นญัตติ 26 ส.ค.นี้
"กรณ์" ค้านซื้อ"เรือดำน้ำ"แนะรัฐใช้งบก้อนใหญ่เร่งแก้ปัญหา"ปากท้อง" ก่อน
* หมายเหตุ : ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
2. ความคิดเห็นของประชาชนกับข้อเรียกร้องให้ “แก้ไขรัฐธรรมนูญ”
อันดับ 1 เห็นด้วย 62.84%
เพราะรัฐธรรมนูญไม่เป็นกลาง เป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ไม่เป็นประชาธิปไตย , อยากให้แก้ไขในหมวดที่มาของ ส.ว. , ควรแก้ไขเฉพาะบางมาตราที่ทำให้เกิดปัญหา , ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ , ล้าสมัย ไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 24.85%
เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมแล้ว , เป็นเพียงความต้องการของคนกลุ่มหนึ่งที่เสียผลประโยชน์ , ผ่านการลงมติมาแล้วไม่จำเป็นที่จะต้องแก้ไขใหม่ , มีปัญหาอื่นเร่งด่วนให้แก้ไขมากกว่า เช่น โควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่แสดงความคิดเห็น 12.31%
3. ความคิดเห็นของประชาชนกับข้อเรียกร้องให้ “พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาหรือลาออก”
อันดับ 1 เห็นด้วย 53.88%
เพราะบริหารงานล้มเหลว ประเทศชาติไม่เจริญก้าวหน้า ไม่มีผลงาน ไม่มีความรู้ความสามารถมากพอในการบริหาร , นายกฯ มาจากการการสืบทอดอำนาจ การได้มาของตำแหน่งขาดความชอบธรรม , เศรษฐกิจตกต่ำ , เผด็จการ ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ , มีการทุจริตคอร์รัปชั่น เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อ
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 38.43%
เพราะเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ ตั้งใจทำงาน มีความจงรักภักดี เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี , ยังมองไม่เห็นใครที่มีความเหมาะสมเข้ามาแทน , พล.อ.ประยุทธ์มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ควรให้โอกาสทำงานจนครบวาระ 4 ปีก่อน ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่แสดงความคิดเห็น 7.69%
4. ความคิดเห็นของประชาชนกับข้อเรียกร้องให้ “หยุดคุกคามประชาชน”
อันดับ 1 เห็นด้วย 59.47%
เพราะการแสดงออกทางความคิดเห็นของประชาชน ควรเป็นไปอย่างอิสระ ไม่โดนคุกคาม , เป็นการใช้อำนาจรัฐเกินขอบเขต เผด็จการ , เป็นสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยของประชาชน , ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 29.19%
เพราะเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากปล่อยปะละเลย อาจทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น , ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือรู้สึกว่าถูกคุกคามจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ , เป็นเพียงข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่แสดงความคิดเห็น 11.34%
5. โดยภาพรวม ประชาชนเห็นด้วยกับการชุมนุมประท้วงของนักศึกษา ณ วันนี้ หรือไม่
อันดับ 1 เห็นด้วย 53.71%
เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางความคิดเห็น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน , เป็นการเรียกร้อง/การกล้าแสดงออกของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น , เป็นการแสดงออกถึงอุดมการณ์หรือจุดยืน มีเป้าหมายที่ชัดเจน /ต้องการประชาธิปไตย ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 41.17%
เพราะสิ่งที่เรียกร้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นการจาบจ้วง , อาจทำให้เกิดความวุ่นวาย การจราจรติดขัด , อาจมีเบื้องลึกเบื้องหลัง , เป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม เศรษฐกิจประเทศชาติกำลังย่ำแย่ อีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ยังมีอยู่ ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่แสดงความคิดเห็น 5.12%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากผลโพลจะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างมีมุมมองต่อการชุมนุมประท้วงว่าเป็นการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย เป็นการชุมนุมของคนรุ่นใหม่ที่กล้าแสดงออก ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้น แต่การชุมนุมนั้นก็ต้องเคารพในสิทธิของผู้อื่น มีความเป็นสุภาพชน ไม่จาบจ้วงสถาบันฯ ทั้งนี้ยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะอาจมีผู้ไม่หวังดี และในภาพรวมกลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยกับการเรียกร้องชุมนุม 53.71% และไม่เห็นด้วย 41.17%
ด้าน รศ.ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์ คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลต่อกรณีการชุมนุมประท้วงของนักศึกษาในครั้งนี้ มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่เป็นผลิตผลทางรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตยโดยแท้ ที่รับรองสิทธิ เสรีภาพการชุมนุม และการประท้วงของประชาชนหรือนักศึกษา ที่มีต่อรัฐบาลหรือสถาบันทางการเมืองอื่นๆ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าว ก็จำต้องสำเหนียกด้วยว่าไม่ควรให้เกินเลยกรอบของกฎหมายบ้านเมือง
ในขณะที่ผลการสำรวจส่วนใหญ่ต่อข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นประเด็นที่น่าสนใจ และรัฐบาลจึงควรใช้โอกาสนี้ทำสัญญาประชาคมและกำหนด Timeline ให้ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และดึงภาคส่วนต่างๆเข้ามามีส่วนร่วม หากข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ล่าช้าเกินควร หรือไม่ได้รับการสนองตอบจากรัฐบาล จะยิ่งทำให้เกิดความเร่งเร้า และเกิดข้อเรียกร้องให้รัฐบาลต้องยุบสภาหรือลาออก หรืออาจจะมีการออกมาขับไล่รัฐบาลเหมือนดั่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็เป็นได้ ดังนั้นรัฐบาลควรรับฟังข้อเรียกร้องต่างๆผ่านผลการสำรวจนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการคิด วิเคราะห์ และนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขสถานการณ์มิให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้